Education Unlimited

เรื่อง เครื่องผลิตหนังสือตามสั่งในห้องสมุดสาธารณะนิวยอร์ค

เรื่องย่อ
ห้องสมุดวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมและธุรกิจในห้องสมุดสาธารณะนิวยอร์คให้บริการหนังสือตามสั่งจากเครื่องผลิตหนังสือ Espresso Book Machine
ผู้ใช้บริการห้องสมุดส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการเดินไปเลือกหยิบหนังสือที่โปรดมาอ่านตามโต๊ะที่ใช้บริการภายในห้องสมุด วิธีนี้อาจเป็นวิธีธรรมดาทั่วไป แต่ที่ ห้องสมุดวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมและธุรกิจในห้องสมุดสาธารณะนิวยอร์คได้ให้บริการเครื่อง Espresso Book Machine ซึ่งถ้ามองดูแล้วอาจเหมือนเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติทั่วไป แต่ความจริงแล้วมันเป็นเครื่องผลิตหนังสือตามต้องการ โดยผู้ใช้บริการห้องสมุดสามารถสั่งพิมพ์หนังสือได้เองฟรี ซึ่งปัจจุบันมีหนังสือที่เป็นหนังสือเพื่อสาธารณะ (public domain) มากกว่า 200,000 เรื่อง ซึ่งหนังสือที่ได้จะไม่แตกต่างจากหนังสือที่พิมพ์จัดจำหน่ายทั่วไป ซึ่งนับว่าได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยต่อไปจะมีการขยายการให้บริการเครื่องดังกล่าวไปยังห้องสมุดสาธารณะนิวออรีนส์ มหาวิทยาลัยอัลเบอร์ต้า ร้านหนังสือนอร์ทแชร์ในแมนเชสเตอร์ เวอร์มอนต์ ในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

ที่มา : Computer.Today www.arip.co.th/-3k อัพเดต 22 /6/50 08.24 น.

24 มิ.ย.50 เวลา 22.10 น.

 

เรื่อง กระพูดได้

เรื่องย่อ
กระดาษดิจิตอลสามารถพูดกับผู้ชมได้ ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรของนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Mid Sweden ได้สร้างแผ่นป้ายกระดาษที่สามารถติดต่อกับผู้ใช้ได้โดยจะส่งเสียงที่บันทึกไว้เพื่อผู้ใช้สัมผัสที่แผ่นป้าย
แผ่นป้ายต้นแบบจะใช้หมึกที่เหนี่ยวนำไฟฟ้า ซึ่งไวต่อแรงดัน ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการโฆษณาในอนาคต หรือแม้แต่นำไปใช้เป็นกล่องบรรจุสินค้าเพื่อให้ข้อมูลผู้บริโภคได้ด้วย
ตัวอย่างต้นแบบที่จัดแสดงเป็นการนำไปใช้ส่งเสริมการตลาดสำหรับการท่องเที่ยวในวันหยุด โดยMikael Gulliksson หัวหน้าโครงการวิจัยบอกกับสำนักข่าว BBC ว่า "เมื่อคุณเข้าใกล้บิลบอร์ดและวางมือลงบนโปสการ์ดที่แสดงภาพชายหาด คุณจะได้ยินเสียงคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับชายหาดนั้นๆ"
จุดสำคัญที่ทำให้บิลบอร์ดสามารถทำงานลักษณะนี้ได้ คือชั้นของกระดาษดิจิตอลที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยพิมพ์ด้วยหมึกเหนี่ยวนำ เมื่อมีการสัมผัสทำให้เกิดแรงดัน และทำให้เกิดการส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ที่เก็บไฟล์เสียงที่บันทึกไว้แล้ว จากนั้นก็จะมีเสียงออกมาทางลำโพงที่พิมพ์บนกระดาษ ซึ่งสร้างขึ้นจากหมึกเหนี่ยวนำหลายๆ ชั้นโดยมีช่องว่างระหว่างกัน ทำให้เกิดเป็นไดอะแฟรมเหมือนในลำโพงจริง
โครงการต้นแบบนี้สามารถนำไปใช้สำหรับโฆษณาสินค้าในร้านค้าและในการนำเสนอข้อมูลทางการตลาดอื่นๆ ได้ และในอนาคต ทีมนักวิจัยมีแผนที่จะลดขนาดเทคโนโลยีนี้ลง เพื่อนำไปใช้ในบรรจุภัณฑ์ของสินค้า
ที่มา : BBC อัพเดต 6 มิ.ย.50 เวลา 08.35 น.
งานชิ้นที่ 2 ส่ง 24 มิ.ย.50 เวลา 22.31 น.

 

เรื่อง กระดาษพูดได้

เรื่องย่อ
กระดาษดิจิตอลสามารถพูดกับผู้ชมได้ ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรของนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Mid Sweden ได้สร้างแผ่นป้ายกระดาษที่สามารถติดต่อกับผู้ใช้ได้โดยจะส่งเสียงที่บันทึกไว้เพื่อผู้ใช้สัมผัสที่แผ่นป้าย
แผ่นป้ายต้นแบบจะใช้หมึกที่เหนี่ยวนำไฟฟ้า ซึ่งไวต่อแรงดัน ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการโฆษณาในอนาคต หรือแม้แต่นำไปใช้เป็นกล่องบรรจุสินค้าเพื่อให้ข้อมูลผู้บริโภคได้ด้วย
ตัวอย่างต้นแบบที่จัดแสดงเป็นการนำไปใช้ส่งเสริมการตลาดสำหรับการท่องเที่ยวในวันหยุด โดยMikael Gulliksson หัวหน้าโครงการวิจัยบอกกับสำนักข่าว BBC ว่า "เมื่อคุณเข้าใกล้บิลบอร์ดและวางมือลงบนโปสการ์ดที่แสดงภาพชายหาด คุณจะได้ยินเสียงคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับชายหาดนั้นๆ"
จุดสำคัญที่ทำให้บิลบอร์ดสามารถทำงานลักษณะนี้ได้ คือชั้นของกระดาษดิจิตอลที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยพิมพ์ด้วยหมึกเหนี่ยวนำ เมื่อมีการสัมผัสทำให้เกิดแรงดัน และทำให้เกิดการส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ที่เก็บไฟล์เสียงที่บันทึกไว้แล้ว จากนั้นก็จะมีเสียงออกมาทางลำโพงที่พิมพ์บนกระดาษ ซึ่งสร้างขึ้นจากหมึกเหนี่ยวนำหลายๆ ชั้นโดยมีช่องว่างระหว่างกัน ทำให้เกิดเป็นไดอะแฟรมเหมือนในลำโพงจริง
โครงการต้นแบบนี้สามารถนำไปใช้สำหรับโฆษณาสินค้าในร้านค้าและในการนำเสนอข้อมูลทางการตลาดอื่นๆ ได้ และในอนาคต ทีมนักวิจัยมีแผนที่จะลดขนาดเทคโนโลยีนี้ลง เพื่อนำไปใช้ในบรรจุภัณฑ์ของสินค้า
ที่มา : BBC อัพเดต 6 มิ.ย.50 เวลา 08.35 น.
งานชิ้นที่ 2 ส่ง 24 มิ.ย.50 เวลา 22.31 น.

 

นิยามล่าสุด “เทคโนโลยีการศึกษา” และ ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
“การศึกษา” หมายถึง กิจกรรมหรือแหล่งทรัพยากรทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้ขีดวงเฉพาะในสถาบันการศึกษาและสนับสนุนการเรียนรู้คำว่า “การเรียนการสอน” ที่หมายถึงการจัดรูปแบบกิจกรรมที่มุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งไว้โดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เรียน โดยมีการนำ”เทคโนโลยี” ที่หมายถึง การประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือองค์ความรู้ใดๆเพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทาง อุปกรณ์ วัสดุหรือซอฟท์แวร์มาช่วย และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนี้เองได้ปรับเปลี่ยนและขยายโอกาสการสนับสนุนการเรียนรู้ในห้องเรียน
โครงการ AECT ได้กำหนดกรอบที่เหมาะสมของเทคโนโลยีการศึกษาขึ้นเพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปในนิยามของเทคโนโลยีการศึกษากรอบแนวคิดที่ว่าเทคโนโลยีการศึกษามีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา
“เทคโนโลยีการศึกษา” มีนิยามในลักษณะมโนทัศน์เชิงนามธรรมว่า เป็นการศึกษา และการปฏิบัติอันดีงามเพื่อเกื้อกูลการเรียนรู้ และช่วยให้การปฏิบัติดีขึ้น โดยการสร้างสรรค์ การใช้ประโยชน์ การจัดหาแหล่งทรัพยากร และกระบวนการทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม
“เทคโนโลยีการศึกษา” มีนิยามในลักษณะการฝึกปฏิบัติได้ว่า
ก. ศึกษา คือ ความเข้าใจเชิงทฤษฎี และปฏิบัติเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษาโดยอาศัยการสร้างสรรค์องค์ความรู้ และการปรับปรุงความรู้อย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการวิจัย และการฝึกปฏิบัติตามหลักการที่ได้ค้นพบ ซึ่งการวิจัยนี้เกิดมาจากความพยายามที่จะพิสูจน์ว่า สื่อและเทคโนโลยีมีประสิทธิผลต่อการเรียนรู้อย่างไร มีการใช้งานเหมาะสมอย่างไร และแก้ปัญหาเพื่อหาแนวปฏิบัติใหม่ๆ
ข. การปฏิบัติอันดีงาม เป็นการเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญา การกำหนดแนวปฏิบัติด้านจริยธรรม ไม่มุ่งเน้นเฉพาะกฎ กติกา และความคาดหวัง แต่เน้นวิธีปฏิบัติด้วยในความเป็นวิชาชีพของเทคโนโลยีการศึกษา
ค. ความเกื้อกูล ในปัจจุบันบทบาทของเทคโนโลยีมีลักษณะเกื้อกูลมากกว่าการควบคุมการเรียนรู้ โดยแนวคิดของการเรียนรู้และการสอนที่เปลี่ยนไปสะท้อนให้เห็นชัดเจนในทฤษฎีด้านพุทธิพิสัยและสรรคนิยม นักเทคโนโลยีการศึกษาจึงมีหน้าที่ออกแบบเครื่องมือทางพุทธิพิสัย สภาพแวดล้อม การสร้างโอกาส และช่วยให้ผู้เรียนรู้ได้ค้นพบคำตอบจากข้อสงสัยของตนเองได้
ง. การเรียนรู้ คือ ความคงทนของสารสนเทศ สามารถวัดได้จากแบบทดสอบหรือการประเมินและพบในสถานศึกษา
จ. ช่วยทำให้ดีขึ้น เพื่อให้สาขาวิชาชีพนั้น ๆ ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน และพิสูจน์ตนเองได้ว่าสามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้เกิดขึ้นกับสังคมอย่างชัดเจน และนำไปสู้การผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีประสิทธิผล และคาดการณ์ได้
ฉ. การปฏิบัติ หมายถึง ความสามารถของผู้เรียนในการใช้ และประยุกต์ความสามารถ
ใหม่ ๆ ที่ได้รับ ให้ผู้เรียนต้องมีการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ปลายทางหลังการเรียน
ช. การสร้างสรรค์ หมายถึง ทฤษฎี ผลการวิจัย และแนวทางปฏิบัติที่รวมอยู่ในกรรมวิธีโครงสร้างของสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบทั้งในและนอกระบบ
ซ. การใช้ประโยชน์ หมายถึง ทฤษฎี และแนวปฏิบัติเกี่ยวข้องกับการนำผู้เรียนไปสัมผัสกับเงื่อนไขและแหล่งการเรียนรู้ การใช้ประโยชน์เริ่มด้วยการเลือกแหล่งทรัพยากร วิธีการ แผนการ และวัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสมที่อาจเลือกได้โดยผู้เรียนและผู้สอน
ฌ. ความเหมาะสม หมายถึง การนำวิธีการและทรัพยากรมาใช้อย่างเหมาะสมลงตัวกับจุดประสงค์ที่วางไว้
ญ. เชิงเทคโนโลยี หมายถึง การอธิบายกิจกรรมของมนุษย์บนพื้นฐานของเทคโนโลยี ด้วยการวางแผนและปฏิบัติการสอน กับการเปลี่ยนแปลงเชิงเทคโนโลยีในสื่อต่าง ๆ
ฎ. กรรมวิธี หมายถึง อนุกรมของกิจกรรมที่มุ่งไปสู่ผลที่ได้ระบุเอาไว้ล่วงหน้า นักเทคโนโลยีมักดำเนินการออกแบบ พัฒนา และสร้างแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ในการพัฒนาการเรียนการสอน
ฏ. แหล่งทรัพยากร ซึ่งหมายถึง มนุษย์ เครื่องมือ เทคโนโลยีหรือวัสดุอุปกรณ์ ทำให้เราสามารถบอกได้ว่า สาขาวิชานั้น ๆ คืออะไร เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทช่วยในการเผยแพร่ขอบเขตของแหล่งทรัพยากร เพื่อช่วยเหลือผู้เรียน
การกำหนดนิยามทางเทคโนโลยีของ AECT มี 5 ประเด็น คือ การให้นิยามง่าย ๆ , การให้นิยามชัดเจนรัดกุม , การนิยามที่แตกต่างจากยุคก่อน , นิยามล่าสุด และความอ่อนไหวต่อการรับรองมาตรฐานของโปรแกรมเทคโนโลยี
โดย : นางสาวนภมณ สากุล

 

ฮิตาชิโชว์หมวกอ่านความคิด
ฮิตาชิโชว์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เพียงแค่คิด เรื่องต้นแบบมาในรูปหมวกอ่านคลื่นสมองอัจฉริยะ เตรียมนำไปใช้เป็นรีโมททีวีแห่งโลกอนาคตที่ทำให้ผู้ใช้เปิด ปิด และเปลี่ยนช่องทีวีได้โดยใช้ความคิดเท่านั้น
เทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า "brain-machine interface" พัฒนาโดยฮิตาชิ (Hitachi Inc.) แนวคิดการทำงานของเทคโนโลยีนี้เป็นการเปลี่ยนระบบไหลเวียนเลือดและรูปแบบการเคลื่อนที่ของสมองให้ออกมาในรูปสัญญาณไฟฟ้า จากการสาธิตพบว่าความคิดสามารถทำให้รถไฟของเล่นระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ได้จริง
วิธีการใช้หมวกอ่านคลื่นสมองว่าควรจะสูดหายใจเข้าให้ลึกและผ่อนคลาย ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวทำตามและจินตนาการว่ารถไฟวิ่ง รถไฟก็วิ่งได้จริง
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีดังกล่าวยังมีข้อบกพร่องเรื่องความเสถียร เนื่องจากจากผู้ใช้หยุดความคิด หรือแม้แต่เผลอร้องเพลง รถไฟก็จะหยุดลงด้วยเช่นกัน
แต่เดิมเทคโนโลยีนี้มีจุดประสงค์หลักในการพัฒนาสำหรับใช้ในด้านการแพทย์เท่านั้น ในปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงให้สามารถนำมาใช้ในด้านการพาณิชย์มากขึ้น โดยทีมวิจัยของฮิตาชิวางเป้าหมายพัฒนาให้อยู่ในรูปรีโมททีวีที่ผู้ใช้สามารถคิดเพื่อเปิด ปิด และเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ได้โดยไม่ต้องใช้มือกดปุ่ม ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้แทนคีย์บอร์ด และใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆได้ เช่นโคมไฟ เป็นต้น

ที่มา:http://www.doctorsan.com/cgibin/news/newsnavigator.pl?http://www.thaisarn.com/th/ts_count_topic.php?tscode=0623070085

 

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT : Information and Communication Technology) ได้ปรับเปลี่ยนและขยายโอกาสการสนับสนุนการเรียนรู้ในห้องเรียน และการเรียนจากทางไกลเพิ่มขึ้น แหล่งเรียนรู้จึงมีลักษณะเป็นดิจิทัลเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง และกระจายสารสนเทศได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดบริบทของการคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา โครงการของ AECT เพื่อกำหนดกรอบที่เหมาะสมของเทคโนโลยีการศึกษาจึงจัดให้มีขึ้นเพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
เทคโนโลยีการศึกษา สามารถนิยามได้ในลักษณะมโนทัศน์เชิงนามธรรม หรือในลักษณะการ
ฝึกปฏิบัติ ซึ่งหมายถึง เป็นการศึกษา และการปฏิบัติอันดีงามเพื่อเกื้อกูลการเรียนรู้ และช่วยให้การปฏิบัติดีขึ้น โดยการสร้างสรรค์ การใช้ประโยชน์ และการจัดหาแหล่งทรัพยากร และกระบวนการทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม”
การให้นิยามล่าสุดมีความแตกต่างจากครั้งก่อนๆ หลายลักษณะ สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้
1. การใช้คำว่า ศึกษา (study) แทนคำว่า วิจัย (research) เพราะ “ศึกษา”มีนัยกว้างขวางครอบคลุมรูปแบบการสืบค้นหลากหลายมากกว่า รวมถึงการประเมิน การปฏิบัติเข้าไว้ด้วย
2. มีการสร้างพันธะสัญญากับการปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม
3. จุดประสงค์ของเทคโนโลยีการศึกษาเป็นการ “เกื้อกูล” (facilitate) การเรียนรู้ ซึ่งเป็นการพูดอย่างถ่อมตนกว่าคำว่า “การควบคุม” หรือ “ก่อให้เกิด”การเรียนรู้
4. เป็นการจงใจนำคำว่า “การเรียนรู้” มาไว้เป็นศูนย์กลางของนิยาม เพื่อสร้างจุดเด่นว่า การเรียนรู้นั้นเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีการศึกษา จุดประสงค์ของการชูประเด็นการเรียนรู้ก็เพื่อแสดงความโดดเด่นแตกต่างจากสาขาวิชาอื่นๆ ซึ่งอาจไม่เน้นเลย เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือเทคโนโลยีปฏิบัติการ
5. “ทำให้การปฏิบัติการดีขึ้น” หมายถึง การเกื้อหนุนให้การเรียนรู้ให้ดีขึ้นในเชิงคุณภาพ และดีกว่าวิธีการอื่นที่ไม่ใช่เทคโนโลยีการศึกษา การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นสามารถนำไปใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่ความรู้บนหิ้ง (inert knowledge)
6. มีการอธิบายหน้าที่หลักของสาขาวิชา เช่น การสรรค์สร้าง การใช้ประโยชน์ และการบริหารจัดการ ด้วยพจน์ที่กว้างขวาง ใช้ภาษาเทคนิคน้อยลงแทนนิยามเดิม ซึ่งสะท้อนให้เห็นทัศน์ที่ไม่ชัดเจนในกรรมวิธีการออกแบบ
7. มีการระบุว่า เครื่องมือและวิธีการของสาขาวิชาจะต้อง “เหมาะสม” หมายถึง เหมาะกับคน และสภาวะที่นำไปประยุกต์ใช้ และประการที่เจ็ด นิยามล่าสุดทำให้คุณสมบัติของเทคโนโลยีการศึกษาชัดเจนขึ้น โดยแสดงเหตุผลประกอบว่า เครื่องมือและวิธีการที่ไม่ใช่เทคนิควิธี จะถูกจัดไว้นอกกรอบของสาขาวิชาฯ

นิยามเหล่านี้สามารถปรับปรุงแก้ไขได้เมื่อกาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีการศึกษามีโครงสร้างกว้างขวางกว่าเทคโนโลยีการเรียนการสอน คล้ายๆ กับ การศึกษามีขอบเขตกว้างขวางกว่าการเรียนการสอน และสามารถแยกจากกันได้อย่างชัดเจนในเทคโนโลยีปฏิบัติการ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีองค์รวมที่ช่วยเพิ่มระดับปฏิบัติการในสถานประกอบการ ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งการฝึกอบรมมโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษาจะต้องแยกออกมาจากสาขาวิชา และวิชาชีพเทคโนโลยีการศึกษา ความสมบูรณ์ของความหมายของแต่ละประเภทสามารถเขียนแยกกันได้ และสามารถตัดสินจากเกณฑ์ที่แตกต่างกัน.

 

นิยาม “เทคโนโลยีการศึกษา”
ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
การศึกษาเป็นกิจกรรมหรือแหล่งทรัพยากรทั่วๆ ไปที่สนับสนุนการการเรียนรู้ ซึ่งเทคโนโลยีนิยามได้ในลักษณะมโนทัศน์เชิงนามธรรมหรือในลักษณะการฝึกปฏิบัติ องค์ประกอบของนิยามคำว่า เทคโนโลยีการศึกษามีความหมายและรายละเอียดดังนี้
ก.ศึกษา หมายถึง ความเข้าใจในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษาอาศัยการสร้างสรรค์องค์ความรู้และปรับปรุงความรู้อย่างต่อเนื่องด้วยการวิจัยและฝึกปฏิบัติตามหลักที่ค้นพบ
ข.การปฏิบัติอันดีงาม โดยเฉพาะการใช้สื่อ การเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญา จริยธรรม การปฏิบัติด้วยความเป็นวิชาชีพของเทคโนโลยีการศึกษา ต้องปฏิบัติถูกต้องดีงามตามจริยธรรม
ค.ความเกื้อกูล เทคโนโลยีการศึกษามองว่า การเรียนการสอนจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเรียนรู้ ทำให้บทบาทของเทคโนโลยีการศึกษามีความเกื้อกูลมากกว่าการควบคุมการเรียนรู้ ซึ่งเป็นยุคข่าวสารดิจิทัลและยังสนับสนุนการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองแทนการฝึกปฏิบัติ
ง.การเรียนรู้ การตั้งจุดประสงค์การเรียนรู้ต้องใช้ความรู้และทักษะประยุกต์ในเชิงรุก การประเมินจากสถานการณ์จริงหรือจำลอง ความแตกต่างทั้งสองประเภทนี้เรียกว่าเป็นแบบผิวเผินกับแบบลุ่มลึก ปัจจุบันนักศึกษามักกล่าวถึงการศึกษาในความหมายของการเรียนรู้ที่มีผลผลิตนำมาใช้เชิงรุกซึ่งเป็นการเรียนแบบลุ่มลึก
จ.ช่วยทำให้ดีขึ้น สาขาวิชาชีพที่ได้รับการยอมรับมากต้องพิสูจน์ได้ว่าสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้กับสังคม การออกแบบการเรียนการสอนต้องมีความน่าดึงดูดใจเป็นพิเศษและส่งเสริมให้ผู้เรียนตั้งเป้าหมายมีวิธีการเรียนได้ด้วยตนเองและแก้ไขปัญหาได้
ฉ.การปฏิบัติ หมายถึง ความสามารถของผู้เรียนในการใช้ประยุกต์สิ่งใหม่ๆที่ได้รับ แต่การปฏิบัติเป็นสิ่งช่วยให้ดีขึ้น เทคโนโลยีการปฏิบัติความหมายจะกว้างกว่าเทคโนโลยีการศึกษา แต่หน้าที่ของเทคโนโลยีการศึกษา คือ การสร้างสรรค์ การใช้ประโยชน์ และการจัดการ ซึ่งเป็นขั้นหนึ่งของการพัฒนาการเรียนการสอนร่วมกับการประเมิน
ช.การสร้างสรรค์ หมายถึง ทฤษฎี ผลการวิจัย และแนวทางปฏิบัติ ซึ่งอยู่ในโครงสร้างของการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งในระบบและนอกระบบ การสร้างสรรค์อาจมีกิจกรรมหลายอย่างซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีการออกแบบที่นำมาใช้
ซ.การใช้ประโยชน์ หมายถึง ทฤษฏี และแนวทางปฏิบัตินำผู้เรียนไปสัมผัสเงื่อนไขและแหล่งเรียนรู้ โดยเริ่มจากแหล่งทรัพยากร วิธีการ วัสดุอุปกรณ์ ซึ่งในการสอนจริงสิ่งเหล่านี้พบได้หลากหลายจึงต้องวางแผนและใช้งานภายใต้คำแนะนำของครู
ฌ.ความเหมาะสม หมายถึง การนำวิธีการและทรัพยากรมาใช้อย่างเหมาะสมกับจุดประสงค์ที่วางไว้คำว่า เทคโนโลยีที่เหมาะสมพบในสาขาการพัฒนาชุมชน คือเครื่องมือหรือแนวปฏิบัติที่ง่ายที่สุดตรงกับการแก้ไขปัญหาได้นุ่มนวลมากที่สุด
ญ.เชิงเทคโนโลยี หมายถึง การอธิบายกิจกรรมของคนบนพื้นฐานของเทคโนโลยี การวางแผนและการปฏิบัติการสอนเป็นกระบวนการของการวิจัยพัฒนาจึงต้องใช้กรรมวิธีเทคโนโลยีเสมอ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงเทคโนโลยีในสื่อ ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ด้วย
ฎ.กรรมวิธี หมายถึง อนุกรมของกิจกรรมที่มุ่งไปสู่ผลที่ระบุไว้ล่วงหน้า นักเทคโนโลยีการศึกษามักออกแบบพัฒนาและสร้างทรัพยากรแหล่งการเรียนรู้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกรรมวิธีในการพัฒนาการเรียนการสอน
ฏ.แหล่งทรัพยากร ที่มีหลากหลายชนิดทำให้บอกได้ว่าสาขานั้นๆ คืออะไร เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทช่วยเผยแพร่ขอบเขตแหล่งทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือผู้เรียน และแหล่งทรัพยากร หมายถึง มนุษย์ เครื่องมือ เทคโนโลยี และวัสดุอุปกรณ์เพื่อการเรียนรู้ เช่น ห้องสมุด สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญบางสาขา หรือสื่อดิจิทัลใหม่ เป็นต้น
เทคโนโลยีการศึกษาจะเกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้จากหลักการทางวิทยาศาสตร์โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาทางการศึกษาและช่วยพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย

 

ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
การศึกษา คือ กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ อาจจะเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ การถ่ายทอดระหว่างกัน คติคำสอน คำแนะนำ หรือกิจกรรมที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ซึ่งจุดหมายของการเรียนรู้ในแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน อาจจะยุ่งยากซับซ้อนแตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องมีการคิดค้นเครื่องมือเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ง่ายขึ้น ช่วยประหยัดเวลา และถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างรวดเร็ว
องค์ประกอบของเทคโนโลยีการศึกษา
1. ศึกษา หมายถึง ความเข้าใจในเชิงทฤษฎี และปฏิบัติเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา โดยอาศัยการสร้างสรรค์องค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการวิจัย และการฝึกปฏิบัติตามหลักการที่ค้นพบ
2.การปฏิบัติอันดีงาม หมายถึง การปฏิบัติที่ถูกต้องดีงาม โดยเฉพาะการใช้สื่อ และการเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญา
3.ความเกื้อกูล คือ เทคโนโลยีการศึกษา ต้องเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ ในฐานะเครื่องมือเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนค้นคว้าด้วยตนเองแทนการฝึกและปฏิบัติ
4.การเรียนรู้
5.ช่วยทำให้ดีขึ้น หมายถึง กรรมวิธีที่ทำให้การเรียนรู้มีคุณภาพ มีประสิทธิผล และสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้จริง
6.การปฏิบัติ คือ ความสามารถของผู้เรียนในการนำไปใช้ และประยุกต์ความสามารถใหม่ๆที่ได้รับ
7.การสร้างสรรค์ หมายถึง ทฤษฎี ผลการวิจัย และแนวปฏิบัติที่รวมอยู่ในกรรมวิธี โครงสร้างของสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบในระบบ และนอกระบบ
8.การใช้ประโยชน์ ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการประเมินแหล่งทรัพยากร วิธีการและวัสดุอุปกรณ์ ว่าสิ่งเหล่านี้เหมาะกับผู้เรียนเพียงใด ในการเรียนการสอนจริง
9.ความเหมาะสม คือ การนำวิธีการและทรัพยากรมาใช้อย่างเหมาะสมลงตัวกับจุดประสงค์ที่วางไว้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของครูว่า มีความเหมาะสมและใช้ประโยชน์ได้ตามจุดประสงค์ของการเรียนรู้หรือไม่
10.เชิงเทคโนโลยี คือ การอธิบายกิจกรรมของมนุษย์บนพื้นฐานของเทคโนโลยี
11.กรรมวิธี หมายถึง อนุกรมของกิจกรรมที่มุ่งไปสู่ผลที่ได้ระบุเอาไว้ล่วงหน้า
12.แหล่งทรัพยากร หมายถึง มนุษย์ เครื่องมือ เทคโนโลยี และวัสดุอุปกรณ์ ออกแบบไว้ช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้
ดังนั้น เทคโนโลยีการศึกษา เป็นการศึกษาและการปฏิบัติอันดีงามเพื่อเกื้อกูลการเรียนรู้ และช่วยให้การปฏิบัติดีขึ้น โดยการสร้างสรรค์ การใช้ประโยชน์ และการจัดแหล่งทรัพยากร กระบวนการทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม ทำให้เกิดการปฏิบัติงานที่ดีขึ้น ง่ายขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น
สรุปโดย นางสาวธนัญญา นิลเลี่ยม รหัส 50063705
……………………………….

 

ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา

“การศึกษา” หรือ “education” หมายถึง กิจกรรมหรือแหล่งทรัพยากรทั่วๆไปที่สนับสนุนการเรียนรู้ ซึ่งไม่จำกัดว่าต้องเป็นการศึกษาในสถาบันการศึกษา แต่รวมถึงการรับรู้จากสื่อต่าง ๆ

“เทคโนโลยี” หมายถึง การประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือองค์ความรู้ใดๆ เพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทาง รวมถึงอุปกรณ์ (hard technology) หรือวัสดุ หรือซอฟท์แวร์ (soft technology) อื่นๆ

“เทคโนโลยีการศึกษา เป็นการศึกษา และการปฏิบัติอันดีงามเพื่อเกื้อกูลการเรียนรู้ และช่วยให้
การปฏิบัติดีขึ้น โดยการสร้างสรรค์ การใช้ประโยชน์ และการจัดหาแหล่งทรัพยากร และกระบวนการทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม”

ซึ่งเทคโนโลยีการศึกษาจึงรวมถึง การนำเทคโนโลยีด้านใหม่ ๆ มาสนับสนุนการเรียนรู้ และบูรณาการเพื่อใช้ประโยชน์ในการเผยแพร่ข้อมูล การเรียน การศึกษา เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายในการเรียนการสอน จึงจำเป็นต้องนำนวัตกรรมการเรียนการสอนมาทำให้ผู้สอนเกิดความสนใจ เช่น ฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ ภาพนิ่ง วิดีโอ แถบบันทึกเสียง การต่อเชื่อมกับดาวเทียม ชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นดีวีดี เกมคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเร็จรูป

เมื่อมีการการผลิตสื่อ และวิธีการพัฒนาการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงรูปแบบมีขนาดซับซ้อน และกว้างขวางยิ่งขึ้น การบริหารจึงต้องอาศัยทักษะการบริหารโครงการเพิ่มขึ้น นักเทคโนโลยีการศึกษาจำเป็นต้องมีทักษะด้านบริหารจัดการระบบส่งถ่ายสารสนเทศ ซึ่งผู้เรียนและผู้สอนอาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียนเหมือนเดิม แต่อาจใช้เทคโนโลยี conference เพื่อถ่ายทอดความรู้จากผู้สอนไปยังผู้เรียนได้

เทคโนโลยีการศึกษาจะสามารถ “ช่วยให้การกระทำดีขึ้น” (improve performance) ซึ่งหมายถึง ประสิทธิผลการเรียนรู้ กล่าวคือ กรรมวิธีดังกล่าวนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและคาดการณ์ได้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล และคาดการณ์ได้ ก่อให้เกิดความสามารถและนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง

------
ปนัดดา รอดสัตรู รหัส 50063709

 

This comment has been removed by the author.

 

หนังสือไฮเทคจ้า
ฟรี หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : free ebook
download
free e-book ฟรี ตัวอย่าง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (eBook) ที่สร้างด้วยโปรแกรม Flash ตัวอย่างในหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของปลาโลมาแสนรู้ และกิจกรรมการแสดงโชว์ ภายในสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ (Safari World Thailand) ประเทศไทย
สิ่งที่อยากนำเสนอเพื่อแสดงให้เห็นก็คือ การผลิตเอกสาร ตำรา หนังสือ ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างด้วยเทคนิคและวิธีการอย่างหลากหลาย รองรับความต้องการและการเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ

Download free ebook ได้ที่นี่
http://www.etcchandra.org/ebook/eflipbook/dolphinshow.exe

คำหลัก: free ebook video หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ อีบุ๊ค
โดย นางสาว ภรณี ED.tach 14

 

อุปกรณ์ไฮเทค"เฝ้าติดตามดูลูก

ด้วยความรัก ความเป็นห่วง ทำให้พ่อแม่กลายเป็นคนที่อยากรู้ความเคลื่อนไหวของลูกๆ แทบจะทุกฝีก้าว อยากรู้ไปหมดว่า ตอนนี้ลูกๆ กำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน? ไปโรงเรียนหรือเปล่า? ขับรถเร็วมั้ย? อยู่ที่โรงเรียนกินอะไรบ้างเป็นอาหารกลางวัน? ,ฯลฯ

หากเป็นสมัยก่อน คำถามอันเต็มไปด้วยความรัก ความกังวลของพ่อแม่ ผู้ปกครองเหล่านี้ คงต้องพึ่ง "จินตนาการ" และการทำใจให้คลายกังวล เนื่องจากล้วนเป็นคำถามที่ยากจะรู้ นอกเสียจากคุณจะเป็นพ่อแม่ที่เกาะติดลูกๆ ไปทุกที่ ...ทุกฝีก้าว!!!

แต่ตอนนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้คำตอบเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องยากจะรู้อีกต่อไป และเปิดโอกาสให้พ่อแม่ ได้กลายเป็น "บิ๊กฟาเธอร์ บิ๊กมาเธอร์" ที่สามารถเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมยามไกลตาของลูกๆ ได้หลายอย่าง จนเกิดคำถามอันน่าขบคิดไม่น้อยว่า นี่เป็นการกระทำที่ "ล่วงล้ำ" ชีวิตของอีกฝ่ายมากเกินไปหรือเปล่า และจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกๆ อย่างไรบ้าง ?

เทด ชมิดต์ คุณพ่อลูก 4 ในเมืองบูร์ ริดจ์ มลรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ปกครองท่านหนึ่งที่พึ่งบริการของ Teen Arrive Alive ที่เปิดโอกาสให้เขาตรวจสอบได้ตลอดเวลาว่า ลูกๆ กำลังอยู่ที่ไหน ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ ที่สามารถระบุสถานที่โดยเริ่มใช้บริการนี้มาเมื่อ 1 ปีที่แล้ว

ถึงแม้จะฟังดูเป็นการล่วงล้ำชีวิตส่วนตัวของลูกๆ แต่เทดก็มีเหตุผลให้กับตัวเองว่า เพราะเขาคำนึงถึง "ความปลอดภัย" ของลูกๆ น่ะสิถึงทำอย่างนี้ และอย่างน้อยเวลาลูกๆ จะไปทำอะไรที่ไหน จะได้ระวังตัวมากขึ้น เพราะรู้ว่าถูกพ่อจับตาดูอยู่นะ

"มันน่าหงุดหงิด รำคาญ และให้อำนาจพ่อแม่ควบคุมเรามากเกินขอบเขต" โนอาห์ ลูกชายวัย 15 ของเทดให้ความเห็น หลังจากเคยถูกพ่อจับได้เมื่อไปเที่ยวในสถานที่ไม่ควรไปมา 2-3 แห่ง

แต่เซียร์ร่า ลูกสาววัย 18 ของเทด ที่กำลังศึกษาอยู่ปี 1 มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ดูจะทำใจยอมรับได้มากกว่าน้องชาย อย่างน้อยเธอก็รู้สึกอุ่นใจ และชอบความรู้สึกที่ว่า หากเธอเกิดอันตราย หรือเป็นอะไรฉุกเฉินขึ้นมา พ่อแม่ก็สามารถรู้ได้ว่าเธออยู่ที่ไหน?

"คุณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ดังนั้นการมีสิ่งนี้จึงเหมือนมีผ้าห่มคอยป้องกันภัย" เซียร์ร่ากล่าว

ทั้งนี้จากบริการด้านนี้ที่มีบริษัทหลายแห่งเปิดให้บริการทั้งในอเมริกา อังกฤษ แคนาดา และมีพ่อแม่ ผู้ปกครองเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งบริการที่เปิดโอกาสให้พ่อแม่ตรวจสอบได้ว่า ลูกๆ ออกจากบ้านแล้วไปโรงเรียนหรือเปล่า หรือหนีไปเที่ยวที่อื่น บริษัทที่ให้บริการแบบนี้ก็เช่น Langtree Skills Center Ltd ที่เซ็นสัญญากับโรงเรียนในอังกฤษ 10 แห่ง และกำลังเพิ่มขยายกลุ่มโรงเรียนในอเมริกา ด้วยบริการแจ้งให้ผู้ปกครองทราบผ่านข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือ หรืออี-เมล ว่าลูกไปโรงเรียนหรือเปล่า รวมทั้งแจ้งรายงานผลการเรียนของลูกให้พ่อแม่ทราบ

หรืออย่างบริการของบริษัท Mealpay.com ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐ และเริ่มให้บริการมาร่วม 2 ปีด้วยการเปิดช่องทางให้พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบเรื่องอาหารกลางวันของลูกที่โรงเรียนได้ ผ่านระบบการจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันของลูกๆ ได้ล่วงหน้าทางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ แล้วพ่อแม่ก็สามารถขอตรวจดูได้ว่า ลูกๆ รับประทานอะไรกันเข้าไปในกระเพาะบ้าง ?

แล้วอย่างบริษัท CarChip ที่ให้บริการติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับรถยนต์ เพื่อให้พ่อแม่สามารถเช็คดูนิสัยการขับรถของลูกได้ว่า ขับรถเร็วขนาดไหน? แต่ละวันขับรถเป็นระยะทางกี่กิโลเมตร?

ต่อบริการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ คริสตี้ อาจารย์ภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเวค ฟอร์เรสต์ รัฐนอร์ธ คาโรไลน่า ให้ความเห็นว่า

เป็นเรื่องดีที่พ่อแม่สามารถรู้ได้ว่า ลูกๆ อยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่ลืมจะฝากข้อคิดให้ผู้ใหญ่ได้คิดสักนิดว่า เด็กวัยรุ่นที่ไม่น่าไว้ใจก็มี แต่เด็กวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมน่าเชื่อใจ แม้จะอยู่ลับตาพ่อแม่ก็ยังมีอยู่เช่นกัน

"ดังนั้นพ่อแม่จำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความอยากรู้ของเรา โดยไม่ทำให้ลูกๆ รู้สึกว่าถูกควบคุมทุกฝีก้าว และพ่อแม่ไม่ควรจะหลอกตัวเองให้หลงคิดว่าสามารถจะป้องกันลูกๆ จากการทำความผิดพลาดได้ เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านั้นล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตและเรียนรู้"

ขณะที่ เคต เคลลี่ เจ้าของหนังสือ The Complete Idiot"s Guide to Parenting a Teenager ได้ฝากข้อคิดไว้อย่างน่าฟังว่า "สามีภรรยาโดยปกติทั่วไป เขาไม่จ้างนักสืบให้คอยสอดแนม เฝ้าติดตามสามีหรือภรรยาของตัวหรอกว่าไปทำอะไรที่ไหนบ้าง ขณะที่พ่อแม่ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกหลาน ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์พิเศษเหล่านั้นเพื่อเฝ้าติดตามลูกๆ ของตน"
นางสาว ภรณี พรหมเทศ Ed.tech 14

 

ย่อนิยามการศึกษา
การศึกษา” หรือ “education” หมายถึง กิจกรรมหรือแหล่งทรัพยากรทั่วๆไปที่สนับสนุนการเรียนรู้ ซึ่งไม่จำกัดว่าต้องเป็นการศึกษาในสถาบันการศึกษา แต่รวมถึงการรับรู้จากสื่อต่าง ๆ

“เทคโนโลยี” หมายถึง การประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือองค์ความรู้ใดๆ เพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทาง รวมถึงอุปกรณ์ (hard technology) หรือวัสดุ หรือซอฟท์แวร์ (soft technology) อื่นๆ
องค์ประกอบของเทคโนโลยีการศึกษา
1.ศึกษา หมายถึง ความเข้าใจในเชิงทฤษฎี
2.การปฏิบัติอันดีงาม3.ความเกื้อกูล
4.การเรียนรู้
5.ช่วยทำให้ดีขึ้น
6.การปฏิบัติ
7.การสร้างสรรค์
8.การใช้ประโยชน์
9.ความเหมาะสม
10.เชิงเทคโนโลยี คือ การอธิบายกิจกรรมของมนุษย์บนพื้นฐานของเทคโนโลยี
11.กรรมวิธี
12.แหล่งทรัพยากร
นางสาวภรณี พรหมเทศ รหัส 50063714 Ed.tech14

 

อุปกรณ์ไฮเทคเพื่อผู้สูงวัย

--------------------------------------------------------------------------------


สำหรับบ้านที่มีผู้เฒ่าผู้แก่อยู่ด้วย คงรู้สึกเป็นห่วงไม่น้อยหากต้องทิ้งท่านให้อยู่ตามลำพัง
ด้วยเหตุนี้นักวิจัยชาวสหรัฐอเมริกา จึงพัฒนาอุปกรณ์ไฮเทคขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุให้อยู่ภายใน
บ้านได้อย่างเป็นสุขและปลอดภัยยิ่งขึ้น หลายคนคงเคยเจอปัญหาคุณแม่อายุ 80 ปี เป็นโรคความจำระยะ
สั้น มักจะขี้หลงขี้ลืม ไม่ว่าจะเป็นลืมกินยา ลืมวันนัดไปหาหมอ หรือแม้กระทั่งลืมปิดแก๊ส และคนในวัยนี้
มักจะมีอาการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น และมีความรู้สึกอ่อนไหวมากกว่าปกติ ดังนั้น ดร.โรบิน เฟลเดอร์ผู้อำนวย
การศูนย์วิจัยทางการแพทย์มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย พร้อมคณะทำงานโครงการ Healthsense
จึงพยายามพัฒนาอุปกรณ์ไอเทคเข้ามาช่วยผู้สูงอายุให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข
"Smart Walker" อุปกรณ์ 3 ล้อที่ติดตั้งสแกนเนอร์เลเซอร์พร้อมซอฟต์แวร์ในตัวที่ใช้สำหรับ
ประมวลผลข้อมูลในมุมมองถึง 180 องศา สามารถปรับเปลี่ยนทิศทางล้อหน้าเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นระบบนำทางที่สามารถตรวจจับสิ่งที่อยู่ด้านหน้าและบังคับการเคลื่อนที่ให้ไป
อีกทางเพื่อป้อกันไม่ให้เกิดการปะทะขึ้นมา นอกจากนี้ Healthsense กำลังพัฒนาเครื่องมือชิ้นที่สอง
ที่ใช้งานร่วมกับเจ้าเดอะวอคเกอร์ด้วย โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้จะสร้างเครือข่ายตัวตรวจจับภายในบ้านของผู้ใช้
ซึ่งจะจดจำรูปแบบการดำเนินชีวิตประจำวันเช่น การกิน การนอน และการทักทาย โดยหากมีสิ่งผิดปกติ
เกิดขึ้นระบบจะส่งสัญญาณเตือนภัยแจ้งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทันที ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเข้าห้องน้ำอยู่
ระบบตรวจจับจะไม่แสดงข้อมูลใดๆ ให้ปรากฏเป็นเวลา 13 นาที โดยจะทำการบันทึกเหตุการณ์ปกติ
ทั่วไป แต่หากกินเวลานานเกิน 20 นาทีแล้ว ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นระบบจะส่งสัญญาณ
เตือนภัยให้ผู้ดูแลทราบในทันที

 

ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
สถาบันการศึกษาระดับต่างๆ เช่น โรงเรียน วิทยาลัย บริษัทจัดฝึกอบรมพยายามจัดสิ่งเกื้อหนุนอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนอันเป็นเป้าหมายหลักของสถาบัน เช่น การจัดอาคารสถานที่สิ่งแวดล้อมช่วยอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้
จุดมุ่งหมายการเรียนรู้ในสถาบันการศึกษา อาจเกิดขึ้นจากสถาบัน และผู้เรียนร่วมกัน มักมีลักษณะยุ่งยากซับซ้อน ครูผู้สอนจึงคิดวิธีการใหม่ๆ เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ง่ายกว่า แน่นอนกว่า และราคาถูกกว่าวิธีการที่ผ่านมา วิธีการบางอย่างดังกล่าวอาจจัดเป็น “เทคโนโลยี” ซึ่งหมายถึง การประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือองค์ความรู้ใดๆ เพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทางได้ วิธีการดังกล่าวอาจรวมถึงอุปกรณ์ หรือวัสดุหรือซอฟท์แวร์
นิยามของเทคโนโลยีการศึกษา
“เทคโนโลยีการศึกษา เป็นการศึกษา และการปฏิบัติอันดีงามเพื่อเกื้อกูลการเรียนรู้ และช่วยให้การปฏิบัติดีขึ้น โดยการสร้างสรรค์ การใช้ประโยชน์ และการจัดหาแหล่งทรัพยากร และกระบวนการทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม”
องค์ประกอบของนิยาม
1.ศึกษา (study) หมายถึง ความเข้าใจในเชิงทฤษฎี และปฏิบัติเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา โดยอาศัยการสร้างสรรค์องค์ความรู้ และการปรับปรุงความรู้อย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการวิจัย และการฝึกปฏิบัติการตามหลักการที่ค้นพบ
2.การปฏิบัติอันดีงาม (ethicalpractice) คือ การให้ความช่วยเหลือสมาชิกเป็นรายบุคคล และรายกลุ่มเพื่อคงไว้ซึ่งการปฏิบัติการเชิงวิชาชีพในระดับสูง
3.ความเกื้อกูล (facilitating) ประกอบด้วย การออกแบบสิ่งแวดล้อม การจัดองคาพยพของแหล่งการเรียนรู้ และการจัดหาเครื่องมือต่างๆ ให้ผู้เรียน
4.การเรียนรู้ (learning) หมายถึง ความคงทนของสารสนเทศ สามารถวัดได้จากแบบทดสอบ
5.ช่วยทำให้ดีขึ้น (improving) หมายถึง ประสิทธิผลการเรียนรู้ กล่าวคือ กรรมวิธีดังกล่าวนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและคาดการณ์ได้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล และคาดการณ์ได้ ก่อให้เกิดความสามารถและนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง
6.การปฏิบัติ (performance) หมายถึง ความสามารถของผู้เรียนในการใช้ และประยุกต์ความสามารถใหม่ๆที่ได้รับบทเรียนแบบโปรแกรม ยึดแนวทางให้ผู้เรียนต้องปฏิบัติได้ตามจุดประสงค์ปลายทาง
7.การสร้างสรรค์ (creating) หมายถึง ทฤษฏี ผลการวิจัย และแนวปฏิบัติที่รวมอยู่ในกรรมวิธีโครงสร้างของสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบทั้งแบบในระบบ และนอกระบบ
8.การใช้ประโยชน์ (using) หมายถึง ทฤษฏี และแนวปฏิบัติเกี่ยวข้องกับการนำผู้เรียนไปสัมผัสกับเงื่อนไขและแหล่งการเรียนรู้
9.ความเหมาะสม (appropriate) หมายถึง การนำวิธีการและทรัพยากรมาใช้อย่างเหมาะสม ลงตัวกับจุดประสงค์ที่วางไว้
10.เชิงเทคโนโลยี (technological) หมายถึง การอธิบายกิจกรรมของมนุษย์บนพื้นฐานของเทคโนโลยี ประเด็นที่หนึ่ง : การวางแผนและการปฏิบัติการสอน
ประเด็นที่สอง : มีการเปลี่ยนแปลงเชิงเทคโนโลยีในสื่อ ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์
11.กรรมวิธี (process) หมายถึง อนุกรมของกิจรรมที่มุ่งไปสู่ผลที่ได้ระบุเอาไว้ล่วงหน้า และยังรวมถึง การใช้ประโยชน์ และการจัดการแหล่งทรัพยากรและการสร้างสรรค์สิ่งเหล่านั้น
12.แหล่งทรัพยากร (resources) หมายถึง มนุษย์ เครื่องมือ เทคโนโลยีและวัสดุอุปกรณ์ ออกแบบไว้ช่วยผู้เรียนในการเรียนรู้ อาจรวมถึงระบบ ICT แหล่งความรู้ชุมชน และผู้เชี่ยวชาญบางสาขา หรือสื่อดิจิทัลใหม่ๆ รวมถึงสื่อแอนะล็อกทั่วไป
จุดประสงค์และผู้ใช้งาน
ในการให้คำนิยามในโครงการนี้ มีจุดประสงค์หลายประการ เช่น 1) เพื่อเป็นการตีเส้นแยกสาขาเทคโนโลยีการศึกษาออกจากสาขาอื่นๆ 2) เพื่อส่งเสริมให้สาธารณชนยอมรับสาขาวิชาฯ 3) เพื่อเป็นการรับสมัครผู้เรียนและนักปฏิบัติเข้าสู่วงการ 4) เพื่อกำหนดพารามิเตอร์ของการกำหนดมาตรฐานรับรองเครดิตของสาขาวิชาฯ 5) เพื่อกำหนดคำศัพท์วิชาการ (terminology) เพื่อการอภิปรายในสาขาวิชาฯ และ 6) เพื่อเป็นการบอกกล่าวผู้เรียน หรือบุคคลอื่นๆที่เข้ามาใหม่ในวงการได้รู้จักแนวคิดหลักๆ และคุณค่าที่เราเชื่อถือ

 

เทคโนโลยีโลจิสติกส์
ปัจจุบัน ภายใต้ระบบการค้าเสรี ได้เกิดการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นมาก ส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงกันอย่างกว้างขวางในการจัดการทั้งอุปสงค์และอุปทาน ธุรกิจไม่สามารถดำเนินอยู่ได้เพียงผู้เดียว การดำเนินธุรกิจและอุตสาหกรรมในยุคนี้จำเป็นที่จะต้องหันมาจับมือกับธุรกิจรอบตัว ธุรกิจรอบตัวที่กล่าวถึงนี้จะรวมทั้งรอบตัวในแนวดิ่งและแนวราบ ความร่วมมือระหว่างธุรกิจในแนวดิ่งจะรวมถึงธุรกิจที่ก่อให้เกิดผลผลิตจริงในสายการผลิตของตน ตั้งแต่ผู้จัดหาวัตถุดิบ ผู้จัดส่ง ผู้ผลิต ผู้กระจายสินค้าและลูกค้า ส่วนความร่วมมือในแนวราบนั้นจะรวมถึงธุรกิจที่มีลักษณะส่งเสริมสนับสนุนหรือเป็นคู่ค้าที่มีประโยชน์ก่อให้เกิดการเพิ่มผลผลิต หรือยกระดับความสามารถของตนได้ ซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน แนวคิดการหันมาจับมือกับธุรกิจรอบตัวนี้เป็น แนวคิดที่เรียกว่า โซ่อุปทาน (Supply chain) ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ ซึ่งมีโลจิสติกส์ (Logistics) เป็นกลไกในการบริหาร ภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยได้เริ่มยอมรับแนวความคิดของการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน และก่อให้เกิดการปรับปรุงแนวปฏิบัติให้ดีขึ้นในบางอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม การนำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าที่ควร โดยเฉพาะในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprise หรือ SME) หรือเกิดการลงทุนที่สูงมากในการนำหลักการนี้ไปใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ การนำเอาวิทยาการด้านโลจิสติกส์ทีได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยตลอดมาประยุกต์ใช้งานนั้น จำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจในศาสตร์ทางด้านนี้อย่างแท้จริง ล่าสุด เมื่อเดือน มีนาคม 2548 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดทำร่างแผนแม่บทการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของไทยขึ้น โดยมีกลยุทธ์หลักข้อในการส่งเสริมการผลิตบุคลากรด้านโลจิสติกส์ให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน อีกด้วย

 

นิยามล่าสุด
“เทคโนโลยีการศึกษา”
มนุษย์มีลักษณะโดดเด่น กล่าวคือ สามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ของตนเองได้และการศึกษานั้นไม่จำเป็นต้องเรียนรู้จากห้องเรียนเสมอเพราะทุกวันนี้ เพราะว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีได้ก้าวหน้าไปมากเราสามารถศึกษาได้จากอินเตอร์เน็ตก็ได้ การจัดกิจกรรมทางการศึกษาเป็นการจัดโดยตัวบุคคลและเทคโนโลยี ยังนำมาประยุกต์ใช้กับหลักการทางวิทยาศาสตร์หรือองค์ความรู้ใดๆ เพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทางได้ การศึกษามี 2 แบบ คือการศึกษาแบบปฏิบัติและการศึกษาแบบทฤษฎี การวิจัยสามารถทำได้หลากหลายอย่างตามหลักและโครงสร้างทฤษฎีหรือหลักที่ขัดแยงกับทฤษฎี การวิจัยทางเทคโนโลยีการศึกษา กำเนิดจากความพยายามพิสูจน์ว่าสื่อและเทคโนโลยีมีประสิทธิผลต่อการเรียนรู้อย่างไร และการวิจัยทางเทคโนโลยีการศึกษาที่ผ่านมามักเป็นการสำรวจตรวจสอบเทคโนโลยีใหม่ๆ สืบค้นหาวิธีกี่ออกแบบพัฒนา การใช้ประโยชน์และการจัดการที่ดีที่สุดการปฏิบัติอันดีงานเป็นการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมคำนึงถึงความดีงานของสังคม หลักปฏิบัติของ AECT แบ่งออกเป็น 3 หมวด 1. พันธะสัญญาการเข้าถึง 2. พันธะต่อสังคม 3.พันธะต่อวิชาชีพ
ความเกื้อกูล เป็นการใช้เทคโนโลยีการศึกษาในการเรียนรู้ในการสร้างโอกาสให้กับผู้รับการศึกษาได้เรียนรู้ได้ด้วยตนเองเหตุการณ์เรียนรู้มีแบบเผชิญหน้าหรือสภาวะแวดล้อมเสมือนจริง การเรียนรู้คือการเรียนรู้จากอินเตอร์เน็ต เรียนรู้จากห้องสมุด สังคม สื่อสารสนเทศ การใช้ประโยชน์ก็ควรใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับความต้องการ และต้องใช้อย่างชาญฉลาด ความเหมาะสมเป็นการใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานเพราะทุกวันนี้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้มีการพัฒนาขึ้นไปมากในเชิงเทคโนโลยี ประเด็นที่ 1 เป็นการใช้ชีวิตประจำวันในการทำงาน ประเด็นที่ 2 เป็นการใช้เทคโนโลยีในการช่วยทำงาน และแหล่งทรัพยากรทางด้านเทคโนโลยีฯ มีดังนี้ เครื่องมือ อุปกรณ์รวมทั้งระบบ ICT หรือดิจิตอลใหม่ เช่น CD-ROM เว็บไซด์ และเว็บแควสท์ รวมทั้งแอนะล็อกทั่วไปและเอกลักษณ์ของเทคโนโลยีการศึกษา คือการนำเอาอุปกรณ์การเรียนการสอน และวิธีระบบนำมาประยุกต์ใช้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง เทคโนโลยีการศึกษามีความหมายกว้างกว่าเทคโนโลยีการเรียนการสอน กล่าวคือ มโนทัศน์ที่มุ่งเน้นเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ภายใต้เงื่อนไขของการควบคุม และตรงเป้าหมายบางทีการใช้คำทั้งสองอาจใช้แทนกันได้ คำนิยาม ของโปรแกรมเทคโนโลยีการศึกษามีความอ่อนไหวและแบ่งออกเป็น 5 องค์ประกอบ คือ การออกแบบ การพัฒนา การนำไปใช้ การจัดการ การประเมิน การกำเนิดของมโนทัศน์เทคโนโลยีการศึกษาเกิดจากการรวบรวมแนวความคิดเข้าด้วยกันเป็นเวลาหลายร้อยปีมาจาก กระทรวงศึกษาธิการ ของสหรัฐอเมริกา พันธกิจเริ่มต้นของกรมนี้ และมีนักพฤติกรรมนิยม กล่าวคือสกินเนอร์ได้พิมพ์หนังสือและให้ความหมายในช่วงปี 1965-1960 ว่าเทคโนโลยีการศึกษามีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งปี 1970 ก็มีแนวความคิดโน้มเอียงมาทางการสื่อสาร มโนทัศน์ก็เกิดขึ้นใหม่ในปีนี้ นิยามของเทคโนโลยีการศึกษาในปี 1972 จุดสนใจเปลี่ยนจากสื่อโสตทัศน์ - แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ไปเป็นวิธีการสร้างสรรค์การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ แต่ก็ยังรักษาแก่นมโนทัศน์ แต่ในปี 1994 ก็ยังคงเน้นกรรมมาวิธีเช่นเดิม แม้ว่าจะเน้นไปทางเทคโนโลยีการเรียนการสอน

 

คอมพิวเตอร์พกพา Foleo ใหม่จากปาล์ม
หลังจากต่อสู้ในสมรภูมิพีดีเอมานาน ปาล์มได้ฤกษ์เปิดตัวคอมพิวเตอร์สำหรับพกพา (Compact portable computer) มาพร้อมชื่อเก๋ "Foleo" ขึ้นมาใหม่อีกรุ่นหนึ่งแล้ว หวังใช้ต่อกรกับสมาร์ทโฟนของค่ายดัง เช่น แบล็กเบอร์รี่จากค่าย RIM หรือไอโฟนจากค่ายแอปเปิ้ล
เครื่อง Foleo จากปาล์มมาพร้อมหน้าจอกว้าง 10 นิ้ว มีคีย์บอร์ดเต็มรูปแบบ และสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สายได้ ในน้ำหนักเพียง 2.5 ปอนด์ คิดเป็นน้ำหนักเพียงครึ่งหนึ่งของแลปท็อปรุ่นเล็ก โดยรายงานข่าวรอยเตอร์ระบุว่า คอมพิวเตอร์ Foleo นี้ออกมาเพื่อร่วมมือกับสมาร์ทโฟนตระกูล Treo ของปาล์ม โดยตั้งความหวังว่าจะสามารถฟื้นชื่อเสียงที่เคยมีในตลาดคอมพิวเตอร์แบบพกพาให้กลับคืนมาได้
โดยมันได้รับการออกแบบให้สามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ ซึ่งทางค่ายปาล์มเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้นักธุรกิจสามารถจัดการกับอีเมลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะมันมีหน้าจอขนาดใหญ่ และมีคีย์บอร์ด
เจฟฟ์ ฮอว์กินส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเปิดเผยว่า Foleo จะช่วยให้ตลาดของสมาร์ทโฟนประสบความสำเร็จได้มากขึ้นในระยะยาว และมันยังช่วยให้เรากลับมาให้ความสำคัญกับการออกแบบสมาร์ทโฟนได้อีกครั้งด้วย ส่วนราคาขายของ Foleo นั้น ตั้งไว้ที่ 599 เหรียญ
สาเหตุที่อาจทำให้ปาล์มต้องหันมาปรับการออกแบบของอุปกรณ์พีดีเอนี้มีที่มาจากการที่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจากค่ายต่าง ๆ ได้นำเอาฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกับที่มีในพีดีเอไปใส่ในโทรศัพท์มือถือรุ่นราคาถูก ทำให้ราคาขายของพีดีเอไม่สามารถแข่งขันกับโทรศัพท์เหล่านั้นได้ อย่างไรก็ดี ในปีที่ผ่านมา ปาล์มสามารถขายเครื่องตระกูล Treo ไปได้ 2.3 ล้านเครื่อง ซึ่งก็ไม่ใช่จำนวนที่น้อยมากนัก
ทิม บาจาริน นักวิเคราะห์จาก Creative Strategies ให้ความเห็นต่อการเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ของปาล์มว่า Foleo เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการตลาด แต่ไม่น่าจะกลายเป็นโปรดักส์ที่สามารถขายได้ในวงกว้าง เนื่องจากมันเหมาะกับการใช้ในธุรกิจมากกว่า คู่แข่งของ Foleo น่าจะเป็นคอมพิวเตอร์แลปท็อปแบบโลว์คอสต์มากกว่า
และเพื่อทำตลาด Foleo ทำให้ค่ายปาล์มต้องกระโดดลงสมรภูมิโอเพ่นซอร์สด้วยอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อให้ต้นทุนในการผลิตมีมูลค่าต่ำที่สุด
"หากโลกของโอเพ่นซอร์สยกชื่อของ Foleo ไว้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่แบบพกพาที่ใช้ลินุกซ์ (Mobile Linux Portable) มันจะยิ่งมีพลังมากขึ้น" บาจารินกล่าว

 

ไอพ็อตช่วยคุณหมอฟังเสียงได้
ศึกษาพบ การฟังเสียงจังหวะหัวใจเต้นอย่างน้อย 400 ครั้งผ่านไอพ็อดเป็นหนทางช่วยพัฒนาความสามารถในการตรวจรักษาของแพทย์ได้ ระบุไอพ็อดทำให้นักเรียนแพทย์สามารถวิเคราะห์ความแตกต่างของจังหวะหัวใจได้ถูกต้องมากกว่าการฟังจากเครื่องมือตรวจฟังของแพทย์
การศึกษาครั้งนี้ดำเนินการโดยไมเคิล แบร์เร็ท (Michael Barrett) นักวิชาการด้านหัวใจวิทยาจากมหาวิทยาลัยเทมเปิลยูนิเวอซิตี้ (Temple University) ถูกนำมาประกาศแก่นักวิชาการกว่า 3 หมื่นคนที่เข้าร่วมงานประชุมของ American College of Cardiology สถาบันการศึกษาด้านหัวใจวิทยาของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (26)
แบร์เร็ทอธิบายการประยุกต์ใช้ไอพ็อด (iPod) เครื่องเล่นเพลง MP3 ยอดนิยมของแอปเปิลคอมพิวเตอร์กับการแพทย์ว่าทำการทดลองกับนักเรียนแพทย์จำนวน 149 คน เมื่อให้กลุ่มนักเรียนแพทย์นี้ฟังเสียงหัวใจเต้น 5 ประเภทที่พบบ่อยที่สุดจากไอพ็อดนาน 90 นาที ความถูกต้องในการแยกประเภทหรือวิเคราะห์ความต่างในเสียงหัวใจของนักเรียนแพทย์กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจาก 40 เปอร์เซ็นต์ที่ทำได้จากการใช้สเทตโธสโคป หรือเครื่องฟังเสียงปอดและหัวใจของแพทย์ที่คนไข้เห็นจนชินตา

แบร์เร็ตกล่าวว่า ความสามารถในการวิเคราะห์ความผิดปกติจากการเต้นของหัวใจจำเป็นอย่างยิ่งต่อการตรวจวิเคราะห์รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ และยังสามารถลดการสุ่มทดสอบอื่นๆที่ไม่จำเป็นต่อการรักษา ซึ่งจะกินเวลาจนอาจทำให้ผู้ป่วยเป็นอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้

 

ซัมซุงเปิดตัวมือถือ 4G ครั้งแรกในโลก

ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ยักษ์ใหญ่ไอทีแห่งเกาหลีใต้โชว์ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นที่ 4 หรือ 4G ครั้งแรกของโลก นำรถบัสเป็นเครื่องมือสาธิตประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยี 4G ให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก วางเป้าหมายให้เป็นตัวกระตุ้นยอดขายโทรศัพท์มือถือให้เพิ่มขึ้นในอนาคต

ซัมซุงเผยว่า เทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่เทคโนโลยี 4G นี้เป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดจากแพลตฟอร์มการสื่อสารไร้สายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเพลงไฟล์ MP3 จำนวน 100 เพลงในเวลาน้อยกว่า 3 วินาทีเท่านั้น แม้ว่าผู้ใช้กำลังใช้งานฟีเจอร์อื่นอยู่ด้วยก็ตาม

ซัมซุงดัดแปลงรถบัสให้เป็นสถานที่สาธิตการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ โดยตะลอนโชว์ไปทั่วพื้นที่ทางตอนใต้ของเกาะ Jeju ด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี 4G สามารถถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงได้แม้จะอยู่ระหว่างการเดินทางก็ตาม

เทคโนโลยี 4G เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายในอนาคตที่ให้การความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้มากสุดถึง 1Gbps ตามข้อมูลจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ( The International Telecommunication Union) และหากเทียบประสิทธิภาพกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแล้ว เทคโนโลยี 4G จะใช้เวลาในการรับ-ส่งข้อมูลและคอนเทนต์อื่นๆ ได้เร็วกว่า อีกทั้งแทบจะไม่มีปัญหาเรื่องรอยต่อและจุดอับของสัญญาณมาเป็นอุปสรรค และด้วยเทคโนโลยีนี้ จะทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมรายการทีวีคุณภาพความละเอียดสูงผ่านโทรศัพท์มือถือได้หลากหลายช่องด้วย

" แม้การขับรถไปโรดโชว์สาธิตการใช้งานเทคโนโลยี 4G ไปยังพื้นที่ต่างๆ จะเป็นความสำเร็จที่เกินคาด แต่ซัมซุงเองก็หวังจะให้เกิดการขับเคลื่อนและพัฒนาให้เกิดมาตรฐานของเทคโนโลยี 4G ที่ดียิ่งขึ้นต่อไป อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำปนิธานของซัมซุงในการเริ่มต้นเข้าสู่ยุค 4G ด้วย" Lee Ki-Tae ประธานธุรกิจเครือข่ายการสื่อสาร ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ กล่าว

ทั้งนี้ซัมซุงมีแผนจะนำโทรศัพท์เทคโนโลยี 4G ลงตลาดอย่างเป็นทางการในปี 2010 หากว่าเทคโนโลยี 4G มีความพร้อมในการทำตลาดเชิงพาณิชย์ได้ทันภายในปีหน้า โดยเจ้าหน้าที่จากซัมซุงเผยว่า เทคโนโลยี 4G จะเป็นกลไกตัวใหม่ที่จะเพิ่มความนิยมในตลาดสื่อสาร รวมถึงการเพิ่มยอดขายโทรศัพท์มือถือของเกาหลีใต้ได้อย่างแน่นอน

และแม้ว่ายอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือล่าสุดในปีนี้ของซัมซุงจะทะลุเป้าไปแล้ว แต่ซัมซุงก็เชื่อว่าเม็ดเงินจากยอดขายโทรศัพท์ในตลาดโลกน่าจะมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้นกว่านี้อีก

" ซัมซุงตั้งเป้าไว้ว่าจะมียอดขายในปีนี้ 900 ล้านเครื่อง แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่าจะมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 910 ล้านเครื่องก็ตาม แต่ตอนนี้ยอดขายได้ทะลุไป 950 ล้านเครื่องแล้ว จึงเชื่อว่ายอดขายในตลาดโลกน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน" Lee Ki-tae ให้ความเห็นเพิ่มเติม

แหล่งที่มา http://www.studiophone.co.th/mainnews.php?link=motolora

 

ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา

ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
· จากการเรียนรู้ ประสบการณ์ของมนุษย์การเรียนรู้ส่วนมากเกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่มีการวางแผนโครงสร้างที่แน่นอน สังคมมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นจึงมีการจัดรูปแบบมากขึ้น เช่นกลุ่มความสามารถต่างๆ,สถาบันการศึกษาคำว่า ศึกษา(education) หมายถึงกิจกรรมหรือแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ คำว่า การเรียนการสอน ( instruction )หมายถึงการจัดแบบกิจกรรมมุ่งไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้โดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เรียน ดังนั้นคำว่า การศึกษา จึงไม่ได้กำหนดไว้ในสถาบันการศึกษาเท่านั้น กิจกรรมการสอน หมายถึงกิจกรมที่จัดโดยบุคคลหรือสิ่งอื่นๆนอกจากผู้เรียนเพื่อนำผู้เรียนไปสู่จุดหมายโดยการอ่านหนังสือหรือการค้นในอินเตอร์เน็ต กิจกรรมดังกล่าวสามารถเป็นได้ทั้งการศึกษาและการเรียนการสอน “นิยามของเทคโนโลยีการศึกษา”สามารถนิยามในลักษณะมโนทัศน์เชิงนามธรรมหรือฝึกปฎิบัติ นิยามในลักษณะมโนทัศน์เชิงนามธรรมเป็นการศึกษาและปฎิบัติอันดีงามเพื่อการเกื้อกูลการเรียนรู้ช่วยให้การปฎิบัติดีขึ้นโดยการสร้างสรรค์การใช้ประโยชน์และการค้นหาแหล่งทรัพยากรทางเทคโนโลยีที่เหมาะสมแยกเป็นองค์ประกอบของคำนิยาม ก.ศึกษา(study)หมายถึงความเข้าใจในทฤษฎีและปฎิบัติเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษาโดยอาศัยความรู้ด้วยการวิจัยและการฝึกปฎิบัติ ข.การปฎิบัติอันดีงาม การเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญาและจริยธรรมมุ่งเน้นการปฎิบัติด้วยแบ่งเป็นพันธะสัญยาต่อบุคคลต่อสังคมและต่อวิชาชีพ ค.การเกื้อกูล(facilitating) ง.การเรียนรู้(learning) จ.ช่วยทำให้ดีขึ้น(improving) เทคโนโลยการศึกษาช่วยให้มีประสิทธิผลในการเรียนรู้ ฉ.การปฏิบัติ(performance)เพื่อวัดค่าของผู้เรียน ช.การสร้างสรรค์(creating)คือผลการวิจัยและแนวปฏิบัติทางการเรียนหลายๆรูปแบบ ซ.การใช้ประโยชน์(using) การนำผู้เรียนไปใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยากรและวัสดุ ฌ.ความ เหมาะสม (approprigte) ญ.เชิงเทคโนโลยี(technological) การนำเทคโนโลยีไปใช้ ฎ.กรรมวิธี(process) คือการใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยากรมุ่งสู่กิจกรรมที่ระบุเอาไว้ ฏ.แหล่งทรัพยากร(resources) เช่น สื่อดิจิตอลใหม่ สิ่งตีพิมพ์ฯลฯ
· หลักทฤษฎีพื้นฐานของเทคโนโลยีการศึกษา คือการนำเอาหลักต่างๆที่กล่าวมารวมกันใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้ โดยนำไปวิจัยและปฏิบัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ไปใช้ในเชิงปฏิบัติการจริงในการเรียนการสอน
· เทคโนโลยการศึกษา มีความหมายว่า การนำ เทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดการเรียนรู้ภายใต้เงื่อนไข ไปสู่เป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ในกิจกรรมต่างๆตามที่กำหนด

จากบทความของ ดร.สุพิทย์ กาญจนพันธุ์ Ph.D รศ.คณะคุรุศาสตร์อุตสาหกรรม
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง

 

ข่าวเทคโนโลยี

รวบสองหนุ่มกิมจิตัวแสบส่งเมลขยะ1.6พันล้านครั้ง
ตำรวจเกาหลีใต้โชว์ความเจ๋ง จับกุมโปรแกรมเมอร์ชายสองคน เป็นผู้ต้องสงสัยคดีปล่อยสแปมเมลจำนวนมหาศาลกว่า 1.6 พันล้านครั้ง คาดมีเหยื่อนับหมื่นรายถูกขโมยข้อมูลทางการเงินไปใช้หาประโยชน์
การจับกุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากตำรวจเกาหลีใต้สืบสวนพบว่า ชายทั้งคู่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งอีเมลขยะจำนวนมากช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งปริมาณของอีเมลขยะนับพันล้านครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นการส่งอีเมลขยะที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้เลยทีเดียว คาดว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของคดีดังกล่าวอาจมากถึง 12,000 รายด้วย
สำหรับเหยื่อของคดีนี้คือผู้ที่คลิกเปิดสแปมเมลและคลิกไปตามลิงค์ที่ระบุเอาไว้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ทำการขโมยข้อมูลของเหยื่อไปใช้ประโยชน์ เช่น ซื้อสินค้าและบริการเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านวอนแล้ว หรือคิดเป็น 3,696,068 บาทเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยชื่อของโปรแกรมเมอร์ทั้งสองได้ โดยระบุเพียงว่าจะเปิดเผยในศาลเท่านั้น

"สแปมเมลดังกล่าวได้สร้างปัญหาแก่เกาหลีใต้เป็นอันมาก และเราคิดว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ควรต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่พวกเขาได้ก่อขึ้นด้วย" เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว

แหล่งข่าว
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9500000012870

 

ข่าวเทคโนโลยี

เอซิสผนึกยูไอเอชรุกเอ็มเอสเอส พ.ร.บ.คอมพ์คลอดเชื่อตลาดโต

เอซิสได้ยูไอเอชเป็นพันธมิตรลุยธุรกิจเอ็มเอสเอส มั่นใจตลาดในไทยโตสูง หลังรัฐบาลออกพ.ร.บ.เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดปีนี้ 80% จากมูลรวม 150 ล้านบาท
นายพงษ์ ตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซิส ไอ-ซีเคียว กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้อินเทอร์เน็ตในเอเชียมีถึง 400 ล้านราย ไทย 8 ล้านรายคิดเป็น 12.1% ของประชากร เมื่อมีการใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้ ก็จะมีเรื่องการจารกรรมข้อมูลตามมา เอซิสจึงร่วมมือกับบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ (ยูไอเอช) ในกลุ่มเบญจจินดาในการทำตลาดเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบความปลอดภัยบนเครือข่าย หรือเอ็มเอสเอส (Managed Security Services) เพราะกระแสเอาต์ซอร์สทั่วโลกมาแรง เพราะการให้บริการตรงนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้กับลูกค้าได้ เนื่องจากเอซิสให้บริการกับลูกค้าหลายองค์กรอยู่แล้ว

สำหรับตลาดเอ็มเอสเอสเชื่อว่ายังคงโตต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากมูลค่าตลาดเมื่อปี 2004 ในเอเชียแปซิฟิก อยู่ที่ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าในไทย1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีส่วนแบ่งตลาดในภูมิภานี้เพียง 1% ธุรกิจประเภทนี้ในไทยจึงมีโอกาสโตสูง เนื่องกระแสธุรกิจในไทยจะตามเพื่อนบ้าน

ส่วนปีนี้คาดว่าตลาดเอ็มเอสเอสจะมีมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท เอซิสจะมีส่วนแบ่งตลาด 60% ขณะที่ปีหน้าคาดว่าตลาดจะมีมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท เอซิสตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 80% เนื่องจากยูไอเอชมีฐานลูกค้าอยู่แล้วกว่า 3 พันราย เมื่อร่วมมือกันเชื่อว่าจะสามารถเจาะไปในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าองค์กรได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังออกพ.ร.บ.เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำให้ตลาดเอ็มเอสเอสตื่นตัวมากขึ้น
นายวิชัย เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง กล่าวว่า ปัจจุบันองค์กรต่างๆ มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีมีใช้ในองค์กรกันมาก ทำให้มีการจารกรรมในรูปแบบต่างๆ ตามมา กลุ่มเบญจจินดาเห็นว่าเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะเอ็มเอสเอสน่าจะโตถึง 100% เพราะจากการลงทุนโดยรวมในเรื่องไอซีที 7-8 หมื่นล้านบาท 1% เป็นการลงทุนเรื่องความปลอดภัย หรือทุกๆ 100 บาท 1 บาทจะเป็นเรื่องซีเคียวริตี้

ส่วนการลงทุนในกลุ่มเบญจจินดายังโฟกัสในธุรกิจไอซีที โดยเน้นเรื่องของบรอดแบนด์เป็นหลัก มีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าระดับองค์กร

เบญจจินดา โฮลดิ้ง มีบริษัทในเครือประกอบด้วย ยูไอเอช ซึ่งถือหุ้นอยู่ 75% ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท บริษัทเอซิส ถือ 30% บริษัทยูดีที่ขายเครื่องลูกข่ายมือถือ เบญจจินดาถือ 75% เป้ารายได้ปีนี้ 1.1 หมื่นล้านบาท ดีแทคถือ 25% ยูเทลที่ทำเกี่ยวกับวิศกรรมระบบถือ 100% ตั้งเป้ารายได้ 1.5 พันล้านบาท ยูทีจีที่ให้บริการเกี่ยวกับการศึกษาผ่านเทคโนโลยีถือ 100%

แหล่งที่มา หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ 21 ก.ค.2550

 

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2550 ดร.ศักดิ์สิทธิ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ นายอภิชาต รมยะรูป เลขาธิการมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ ร่วมกันแถลงข่าวโครงการจัดประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี พ.ศ. 2550 ณ ห้องโถงชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร. ศักดิ์สิทธิ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เปิดเผยว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ มีความประสงค์จะส่งเสริมการประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ โดยเล็งเห็นความสำคัญของผู้ที่มีความสามารถในการประดิษฐ์คิคค้นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติโดยส่วนรวม สมควรได้รับรางวัลตอบแทนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเชิดชูเกียรติ จึงจัดให้มีโครงการจัดประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ซึ่งในปี 2550 นี้ กำหนดประกวดในหัวข้อ “เครื่องจักรกล พลังงาน และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเกษตร”
โดยมีข้อกำหนดคือ
1. เจ้าของสิ่งประดิษฐ์คิดค้นฯ จะต้องมีสัญชาติไทย และต้องเสนอรายละเอียดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นฯ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ พิจารณาภายในเวลาที่กำหนด
2. สิ่งประดิษฐ์คิดค้นฯ ที่ส่งเข้าประกวด จะต้องเป็นเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือส่วนประกอบสำคัญของเครื่องจักร หรือเครื่องมือ และจะต้องเป็นประโยชน์ในด้านการเกษตรและ/หรือพลังงานและสิ่งแวดล้อมเพื่อการเกษตร
3. เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ได้ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่ หรือประดิษฐ์คิดค้นเพิ่มเติมและเสร็จสิ้นสมบูรณ์นำไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว โดยต้องสามารถประยุกต์และนำเข้าสู่ภาคการผลิตเป็นอุตสาหกรรมเพื่อการจำหน่ายได้เท่านั้น ไม่ใช่แบบจำลองวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี
4. สิ่งประดิษฐ์คิดค้นฯ นั้น ยังไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ สนับสนุนโดยมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ หากเคยได้รับรางวัลดังกล่าวมาก่อนแล้วนับตั้งแต่วันประกาศ สิ่งประดิษฐ์คิดค้นฯ นั้นจะต้องได้รับการแก้ไข ปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ด้านนายอภิชาต รมยะรูป ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประกวดสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นผู้ดำเนินการด้านวิชาการ ส่วนมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล โดยในปีนี้จะมอบเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะการประกวด จำนวน 6.5 แสนบาท ได้แก่
รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล เป็นเงิน 200,000 บาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ
รางวัลที่ 2 มี 1 รางวัล เป็นเงิน 150,000 บาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ
รางวัลที่ 3 มี 1 รางวัล เป็นเงิน 100,000 บาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ
รางวัลชมเชย มี 4 รางวัล ๆ ละ 50,000 บาท เป็นเงิน 200,000 บาท
พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ
ผู้สนใจส่งผลงานประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2550 หรือสอบถามรายละเอียดได้ทุกวันในเวลาทำการที่
สำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 02 354 4466 ต่อ 610 โทรสาร 02 354 3712 หรือ http://www.most.go.th หรือ www.clinictech.most.go.th หรือ www.most.go.th/eservice
สำนักงานมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 333 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 02 230 -2560 , 02 230 2562
โทรสาร 02 231 5488

 

สรุปความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
ประวัติศาสตร์การดำรงชีวิตของมนุษย์มีพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง สังคมจึงมีการจัดสรรความสามารถของมนุษย์เป็นรูปแบบเฉพาะ เช่น กลุ่มความสามารถเชิงช่าง สถาบันการศึกษารูแบบอื่นๆ ให้มนุษย์ได้พัฒนาทักษะ และความรู้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตสู่การพัฒนาสืบต่อไป กิจกรรมที่สนับสนุนการเรียนรู้ไม่จำกัดเฉพาะในสถาบันการศึกษาเท่านั้น ทั้งนี้รวมถึงข้อแนะนำสังคมในครอบครัว วัฒนธรรม อ่านหนังสือในห้องสมุด การเล่นอินเทอร์เตอร์เน็ตด้วยตนเองสามารถเป็นกิจกรรมทางการศึกษาได้ด้วย สถาบันการศึกษาระดับต่างๆ เช่นโรงเรียน วิทยาลัยพยามจัดสิ่งเกื้อหนุนอื่นๆ นอกเหนือจากกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้
กาลเวลาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ครูผู้สอนจึงคิดวิธีการใหม่ๆ การประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือองค์ความรู้ใดๆ เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ง่ายกว่า แน่นอนกว่า เป็นเทคโนโลยีการศึกษา ความเข้าใจแนวใหม่ต่อกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ แหล่งเรียนรู้มีลักษณะเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น กระจายสารสนเทศได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดบริบทของการคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษาให้ทันกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
เทคโนโลยีการศึกษา สามารถนิยามได้ลักษณะมโนทัศน์เชิงนามประธรรม หรือในลักษณะการฝึกปฏิบัติ นิยามในลักษณะมโนทัศน์เชิงนามประธรรม องค์ประกอบคำหลักๆ ที่ใช้นิยามคำว่า เทคโนโลยีการศึกษา มีดังนี้ 1. ศึกษา (Study) คือความเข้าใจในเชิงทฤษฎี และปฏิบัติ เป็นการรวบรวมสารสนเทศ และนำมาวิเคราะห์ซึ่งกระทำมากกว่าการวิจัยแบบดั้งเดิม 2. การปฏิบัติอันดีงาม (ethical practice) คณะกรรมการว่าด้วยจริยธรรมได้กำหนดแนวปฏิบัติด้านจริยธรรม โดยเฉพาะการใช้สื่อ และการเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ปฏิบัติจะต้องตรวจสอบตนเองอยู่เสมอว่า ได้ปฏิบัติถูกต้องตามหลักจริยธรรมหรือไม่ การออกแบบการเรียนรู้จะต้องคำนึงถึง ความดีงามของสังคมรวมเข้าไว้ด้วยกันเสมอ 3.ความเกื้อกูล (facilitating) ปัจจุบันมองว่าผู้เรียนเป็นเจ้าของกระบวนการเรียนรู้ และรับผิดชอบต่อการเรียนรู้มากขึ้น บทบาทของเทคโนโลยีจึงมีลักษณะเกื้อกูลมากกว่าการควบคุมการเรียนรู้ นักเทคโนโลยีการศึกษาจึงมีหน้าที่ออกแบบเครื่องมือทางพุธพิสัย และสภาพแวดล้อมเพื่อนำทาง และสร้างโอกาส และช่วยให้ผู้เรียนได้ค้นพบคำตอบจากข้อสงสัยของตน 4. การเรียนรู้ (learning) นิยามการเรียนรู้อย่างง่ายๆ หมายถึง ความคงทนของสารสนเทศ สวามารถวัดได้จากแบบทดสอบ จะพบในโรงเรียน มหาวิทยาลัยทั่วไป และที่วัดได้จากการทดสอบกับการเรียนรู้ที่ต้องแสวงหาทักษะเพื่อใช้ประโยชน์นอกห้องเรียน 5. ช่วยทำให้ดีขึ้น(improving) สาขาวิชาชีพนั้นต้องพิสูจน์ตนเองว่าสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้เกิดขึ้นกับสังคมอย่างชัดเจน สามารถชี้แนวทางถูกต้องที่นำไปสู่เป้าหมายอันทรงคุณค่า 6. การปฏิบัติ (performance) ตามข้อเท็จจริงแล้วเทคโนโลยีการศึกษา ไม่สามารถทำให้การปฏิบัติของผู้เรียนดีขึ้นมีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ทุกชนิด สถานที่ทำงานมีปัจจัยอื่นๆ ช่วยการปฏิบัติดีขึ้นนอกเหนือจากการสอนหรือการฝึกอบรม 7. การสร้างสรรค์ (creating) หมายถึง ผลการวิจัย และแนวปฏิบัติที่รวมอยู่ในกรรมวิธีโครงสร้างของสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบทั้งในระบบ และนอกระบบการสร้างสรรค์อาจรวมกิจกรรมหลากหลาย ขึ้นอยู่กับวิธีการออกแบบที่แตกต่างหลากหลายขึ้นอยู่กับปัจจัยเกี่ยวข้องกับนักออกแบบ 8. การใช้ประโยชน์ (using) หมายถึงทฤษฎี และแนวปฏิบัติเกี่ยวข้องกับการนำผู้เรียนไปสัมผัสกับเงื่อไข และแหล่งการเรียนรู้การใช้ประโยชน์เริ่มด้วยการเลือกแหล่งทรัพยากร วิธีการ และวัสดุอุปกรณ์ 9. ความเหมาะสม (appropriate) คือการนำวิธีการ และทรัพยากรมาใช้อย่างเหมาะสมลงตัวกับจุดประสงค์ที่วางไว้ 10. เชิงเทคโนโลยี (technological) หมายถึง การอธิบายกิจกรรมของมนุษย์บนพื้นของเทคโนโลยี เช่นคำกล่าวที่ว่า “การประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ หรือองค์ความรู้ใดๆ อย่างเป็นระบบ 11. กรรมวิธี (process)กรรมวิธี หมายถึง อนุกรมของกิจกรรมที่มุ่งไปสู่ผลที่ได้ระบุเอาไว้ล่วงหน้า นักเทคโนโลยีการศึกษามักดำเนินการออกแบบ พัฒนา และสร้างแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้เป็นกรรมวิธีในการพัฒนาการเรียนการสอน (instructional development) 12. แหล่งทรัพยากร (resources)แหล่งทรัพยากรหลากหลายชนิดทำให้เราสามารถบอกได้ว่า สาขาวิชานั้นๆ คืออะไร เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทช่วยเผยแพร่ขยายขอบเขตของแหล่งทรัพยากร เพื่อช่วยเหลือผู้เรียน
เทคโนโลยีการศึกษา เป็นกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ การเลือกรูปแบบของสื่อเพื่อการวางแผนบทเรียน ซึ่งหาได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม สิ่งตีพิมพ์ ห้องสมุด อินเตอร์เน็ต โสตทัศน์ ฯลฯ

 

ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศ
การกำเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ยุคสารสนเทศ ในช่วงแรกมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคำนวณ แต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูล เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมาก มีการเรียนรู้และใช้สารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมกล่าวได้ดังนี้
การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควมคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น
เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทำให้มีการกระจายโอการการเรียนรู้ มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่ใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร
สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทำรายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนมากขึ้น
เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจำเป็นต้องใช้สารสนเทศ เช่น การดูแลรักษาป่า จำเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การจำลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงแก้ไข การเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย ที่เรียกว่าโทรมาตร เป็นต้น
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงาน
การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็นต้องหาวิธีการในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ การดำเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น
เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป

 

หุ่นยนต์ Kansei สามารถแสดงสีหน้าได้ 36 แบบ


ญี่ปุ่นก้าวไปอีกขั้น พัฒนารูปแบบการแสดงความรู้สึกบนใบหน้าหุ่นยนต์ได้แล้ว 36 วิธี เชื่อว่าการสร้างอารมณ์ให้กับใบหน้าของหุ่นยนต์นี้จะช่วยให้มนุษย์รู้สึกสะดวกใจมากขึ้นเมื่อต้องสื่อสารกับหุ่นยนต์เหล่านี้ในอนาคต

ศาสตราจารย์จุนอิชิ ทาเคโนะ หัวหน้าโครงงานวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสต์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัย Meiji กล่าวว่า "สิ่งที่เราทำอยู่นี้คือการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการแสดงใบหน้าแบบต่าง ๆ ให้กับหุ่นยนต์ ซึ่งจะช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์เป็นไปได้ราบรื่นมากขึ้น"

ทีมงานวิจัยได้ตั้งชื่อให้กับหุ่นยนต์ดังกล่าวว่า "Kansei" ใบหน้าแบบต่าง ๆ ที่หุ่นยนต์แสดงได้นั้นสามารถไล่ระดับมาตั้งแต่แบบยิ้มมีความสุข โกรธขึ้ง หวาดกลัว และเศร้าเสียใจ โดยมาจากการประมวลผลคำศัพท์ และสั่งการให้จุดเคลื่อนไหวที่ซ่อนเอาไว้ใต้หน้ากากซิลิโคนทั้ง 19 แห่งขยับ ผสมเป็นความรู้สึกต่าง ๆ

หุ่นยนต์ Kansei ยังสามารถรับฟังคำศัพท์ภาษาอังกฤษและแสดงสีหน้าที่มีความเกี่ยวข้องกับคำเหล่านั้นออกมาได้ด้วย เช่น ถ้าหากได้ยินคำว่า "Bomb" ที่แปลว่าระเบิด หุ่นจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ถ้าหากอยากให้หุ่นยนต์ยิ้ม ก็พูดคำว่า "ซูชิ" เป็นต้น ที่สำคัญมันสามารถแสดงใบหน้ารังเกียจเมื่อได้ยินคำว่า "ประธานาธิบดี" ได้เสียด้วย

สาเหตุที่หุ่นยนต์ทำหน้ารังเกียจเมื่อได้ยินคีย์เวิร์ดคำว่าประธานาธิบดีนั้นเป็นเพราะฐานข้อมูลออนไลน์จะดึงคำศัพท์ที่เกี่ยวโยงกับคำดังกล่าวมาประมวลผลร่วมด้วย ซึ่งในคีย์เวิร์ดเหล่านั้นอาจมีทั้งคำว่า "บุช-อิรัก-สงคราม" รวมอยู่ และนักวิจัยได้กำหนดให้ความหมายของศัพท์นั้น ๆ ก่อเกิดมาจากความกลัวผสมกับความรังเกียจ และแสดงผ่านใบหน้าของหุ่นยนต์ดังกล่าว

ปัจจุบัน ฐานข้อมูลคำศัพท์ที่หุ่นยนต์มีนี้เท่ากับ 500,000 คำ และสามารถอัปเดตได้ด้วยตัวเอง ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตด้วย

ศาสตราจารย์ทาเคโนะกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในอนาคต จะพัฒนาให้หุ่น Kansei สามารถพูด และแสดงความรู้สึกได้ ซึ่งคาดว่าจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุอย่างมาก

สังคมญี่ปุ่นในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์มากขึ้น เนื่องจากประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นนั่นเอง อีกทั้งการนำเข้าแรงงานต่างชาติเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุก็มีปัญหามากเกินไป ดังนั้น การพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อรองรับความต้องการของสังคมในจุดนี้จึงมีโอกาสถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณามากที่สุด และปัจจุบัน ห้องวิจัยบางแห่งก็พัฒนาหุ่นยนต์ขึ้นช่วยงานแทนการจ้างพนักงานแล้วด้วย

 

โนเกียออกประกาศเตือนภัยผู้ใช้โทรศัพท์มือถือโนเกีย 46 ล้านเครื่องทั่วโลกที่ใช้แบตเตอรี่รุ่น BL-5C ฝีมือการผลิตของมัตสุชิตะ ประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนธันวาคม 2548 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2549 ระบุว่าได้รับร้องเรียนการเกิดปัญหาร้อนจัดขณะชาร์จไฟราว 100 กรณี ยังไม่มีกรณีใดเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง ผู้ใช้สามารถนำแบตเตอรี่ในชุดการผลิตดังกล่าวมาเปลี่ยนใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และแม้มัตสึชิตะในฐานะผู้ผลิตจะเป็นผู้รับผิดชอบต้นทุนการแลกคืน แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจสร้างความเสียหายให้โนเกียสูงถึง 100 ล้านยู
"โนเกียพบว่าแบตเตอรี่โนเกียรุ่น BL-5C ในชุดการผลิตดังกล่าว มีโอกาสที่จะเกิดความร้อนสูงกว่าปกติในขณะชาร์จไฟ ซึ่งเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร" โนเกีย (Nokia) ระบุในจดหมายชี้แจง โดยระบุว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่ทุกชิ้นในชุดการผลิตนี้ เนื่องจากการทดสอบเบื้องต้นพบว่าบางกรณีมีความเป็นไปได้ในการเกิดปัญหาน้อยมาก และขณะนี้โนเกียกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อหาต้นเหตุของปัญหาดังกล่า
"เหตุการณ์ผิดปกติที่ได้รับแจ้งมีเพียง 100 กรณีและเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะกำลังชาร์จแบตเตอรี่ และเท่าที่โนเกียทราบในขณะนี้ ความผิดปกติดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่อย่างใด"
โนเกียย้ำว่าแบตเตอรี่รุ่น BL-5C นั้นไม่ได้ใช้กับโทรศัพท์มือถือโนเกียทุกรุ่น แต่ใช้ได้กับบางรุ่นเท่านั้น และคำเตือนนี้ครอบคลุมเฉพาะแบตเตอรี่จำนวน 46 ล้านก้อนของมัตสึชิตะ ไม่ครอบคลุมถึงแบตเตอรี่ยี่ห้อโนเกียและแบตเตอรี่ BL-5C จำนวนมากกว่า 300 ล้านก้อนที่ผลิตโดยบริษัทอื่น โดยระบุในจดหมายชี้แจงว่าแม้โอกาสเกิดปัญหาแบตเตอรี่ BL-5C ของมัตสุชิตะในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีจำนวนน้อยมาก แต่หากลูกค้าท่านใดเป็นกังวลสามารถขอเปลี่ยนแบตเตอรี่ BL-5C ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

วิธีการตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ใดคือรุ่น BL-5C ที่ผลิตโดยมัตสุชิตะระหว่างเดือนธันวาคม 2548 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2549 ถูกระบุไว้อย่างละเอียดในเว็บไซต์

 

ความน่าเชื่อถือของเว็บไซด์ (Web Site Credibility)
จากการสำรวจของ Persuasive Technology Lab ของมหาวิทยาลัย Stanford จากกลุ่มตัวอย่าง 1400 ตัวอย่าง ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพื่อประเมินเว็บไซต์จำนวน 51 แห่ง พบว่า มีปัจจัยบางประการช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ และปัจจัยบางประการที่ทำให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือลดลง จากปัจจัยรวมทั้งเจ็ดประการ พบว่า 5 ปัจจัยแรกมีส่วนทำให้เกิดความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นได้แก่
ก.รู้สึกอยู่ในโลกของความเป็นจริง (real-world feel) ข. ใช้งานง่าย (ease of use) ค. เป็นผู้ชำนาญการ (expertise) ง. ความไว้เนื้อเชื่อใจได้ (trustworthiness) จ. เอาใจใส่ต่อผู้เยี่ยมชม (tailoring)
ผลการวิจัยสรุปได้ว่า ;บุคคลโดยทั่วไปส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ หรือที่อยู่อาศัย จะประเมินความน่าเชื่อถือได้ของเว็บไซต์คล้าย ๆ กัน จึงสามารถนำผลการวิจัยมาสรุปเพื่อการออกแบบเว็บไซต์ได้ดังต่อไปนี้
1. ออกแบบเว็บไซต์ให้แสดงเอกลักษณ์ขององค์กร การแสดงที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์ และภาพถ่ายของบุคคลในองค์กรเพื่อให้ผู้สนใจติดต่อค้นหาได้ จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อความน่าเชื่อถือได้
2. การออกแบบให้ใช้งานง่าย สามารถเข้าถึงสารสนเทศได้ไม่เกิน 3 คลิ๊ก ที่สำคัญถ้ามีการลิงค์ต้องมีสารสนเทศอยู่จริง สามารถมองหาเครื่องหมายนำทาง (navigator) ได้ง่าย
3. แสดงถึงความเป็นผู้ชำนาญการ เช่น มีชื่อนักเขียนบทความ , การอ้างอิงชัดเจน
4. แสดงถึงความไว้เนื้อเชื่อใจได้ , เช่น การเชื่อมโยงถึงเว็บไซต์อื่น ๆ จะต้องบอกถึงความจำเป็นและความสำคัญของสาระนั้น ๆ อันแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ ความไม่ลำเอียง ซึ่งบางครั้งขัดกับนโยบายขององค์กรเหล่านั้นซึ่งมุ่งแต่การประชาสัมพันธ์ตนเอง
5. การเอาใจใส่ต่อผู้เยี่ยมชม หรือผู้ใช้งาน เช่น yahoo mail จะขึ้นคำว่า welcome to yahoo mail Supit!! ทุกครั้งที่เรา sign in เข้าไปเป็นต้น
6. หลีกเลี่ยงการโฆษณาบนเว็บไซต์ คนส่วนมากไม่ชอบการโฆษณาบ้าบิ่น การนำโฆษณามาผสมผสานกับสาระบนเว็บเพจทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง อย่างไรก็ตามผลการวิจัยชี้ว่า banner ads หรือป้ายโฆษณาเล็ก ๆ น่ารัก ๆ จะช่วยให้เพิ่มความน่าเชื่อถือได้
7. หลีกเลี่ยงความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ผลการออกแบบเว็บไซต์จะต้องมีลักษณะมืออาชีพ ความผิดพลาดเพียงน้อยนิด เช่น พิมพ์ชื่อคนผิดไปวางภาพกับคำอธิบายผิดตำแหน่ง เว้นวรรคผิดที่ จะทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงอย่างมาก จากการทำวิจัยซ้ำของ Stanford และ Makorsky และ Company ในปี 2002 พบปัจจัยที่ทำให้เว็บไซต์น่าเชื่อถือได้เพิ่มขึ้นดังนี้
1. การเพิ่มคุณค่าให้กับเว็บไซต์ โดยการปรับปรุงสาระให้ทันสมัย ตอบคำถามบนเว็บบอร์ด ส่งอีเมลล์ยืนยัน หรือตอบรับในสิ่งที่จะตกลงกัน มีความสามารถในการช่วยสืบค้น สามารถพิมพ์หน้าออกมาได้ง่าย มีหมายเลขโทรศัพท์หรือเมล์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับติดต่อได้
2. ปกป้องความดีงามของสาระ โดยแยกออกจากโฆษณาอย่างเด่นชัดไม่มีโฆษณามากเกินไป ทั้งลักษณะ banner และ pop-up บทความต้องมีอ้างอิง หรือผู้แต่งเสมอ
3. หน้าตา ดูดี มีลักษณะการออกแบบเป็นมืออาชีพ ใช้ศิลปะอย่างมีรสนิยม เหมาะสมกับสาระ ไม่มีตัวสะกดผิดพลาด เว้นวรรคผิด ๆ นามสกุลของเว็บไซต์ (domain name) ต้องเป็นของสถาบัน ถ้าเป็นของฟรีทั่วไป เช่น Geocities, AOL จะมีความน่าเชื่อถือลดลง
4. ต้องแน่ใจว่าทุกองค์ประกอบทำงานได้ การเชื่อมโยงไม่ได้ การแฮ้งก์หรือหยุดทำงานดื้อๆ ทำให้น่าเบื่อหน่อย เวลาที่ใช้ดาวน์โหลดต้องไม่นานเกินไป ดังนั้นการใส่กราฟฟิกจำนวนมากบนโฮมเพจจึงไม่เป็นการถูกต้อง
5. ชื่อเสียงในโลกความจริงขององค์กรจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเว็บไซต์ของหน่วยงานนั้นๆ หรือการลิงค์ไปสู่องค์กรเสื่อมเสียย่อมส่งผลต่อเว็บไซต์โดยตรง

 

สำนักข่าวอีนิวส์ : บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรายการด้วยกัน ซึ่งรวมถึง อินเทล™ คอร์™2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอินเทล™ เซนทริโน™ โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โดยเจาะกลุ่มผู้ใช้ทั้งในกลุ่มองค์กรธุรกิจและบุคคลทั่วไป
นวัตกรรมต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาในอินเทล เซนทริโน โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี รุ่นล่าสุดนี้ ส่งผลให้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ สูงขึ้น อาทิเช่น การทำงานของโปรเซสเซอร์และชิปเซ็ตที่รวดเร็วขึ้น การแสดงผลของวิดีโอและกราฟิกที่ยอดเยี่ยม สัญญาณเครือข่ายไร้สายที่แรงและเร็วกว่าเดิม ระบบการบริหารจัดการและการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เทคโนโลยีใหม่ดังกล่าวยังได้รับการออกแบบให้ใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า จึงช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น และยังมีอุปกรณ์เสริมที่ลูกค้าสามารถเลือกใส่เพิ่มเติมได้เพื่อเร่งความเร็วระดับเทอร์โบในการบู้ตเครื่องเพื่อเข้าสู่ระบบและการโหลดแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ได้อย่างทันใจ
ภายในปีนี้ คาดว่าบรรดาผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ รีเซลเลอร์ และร้านประกอบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
จะวางจำหน่ายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ใช้อินเทล เซนทริโน ดูโอ และ อินเทล เซนทริโน โปร โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี รวมแล้วกว่า 230 รุ่นด้วยกัน โดยผู้ผลิตจะเลือกนำคุณสมบัติต่างๆ มาใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแต่ละรุ่นแตกต่างกันไป
โน้ตบุ๊กแต่ละรุ่นที่วางจำหน่ายจะมีรูปลักษณ์และขนาดต่างๆ มากมายให้ลูกค้าเลือกได้ โดยมีการดีไซน์ที่แตกต่างกันไป นับตั้งแต่รุ่นที่ครบถ้วนและอัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ หรือแม้แต่รุ่นที่ใช้จอไวด์สกรีนขนาด 17 นิ้วซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิง จนถึงรุ่นที่มีขนาดเล็กและประหยัดพลังงานซึ่งมีน้ำหนักเบาไม่ถึง 1.5 กิโลกรัม
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตอนเปิดตัว อินเทล เซนทริโน ในไทยเมื่อสี่ปีก่อน อินเทลได้พลิกโฉมรูปแบบการใช้งานคอมพิวเตอร์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับการใช้งานโมบายล์คอมพิวเตอร์ มาถึงวันนี้ สามารถพูดได้เลยว่าเราได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาส่วนต่างๆ แทบทุกส่วนให้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ใช้เทคโนโลยีอินเทล ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ของตลาดคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดและมีการเติบโตเร็วที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้”
หัวใจสำคัญของโน้ตบุ๊กที่ใช้ อินเทล เซนทริโน โปร และ อินเทล เซนทริโน ดูโอ โปรเซสเซอร์เทคโนโลยี ได้แก่ อินเทล คอร์ 2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่มาแรงและได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างมาก เนื่องจากโปรเซสเซอร์รุ่นนี้มีประสิทธิภาพสำหรับการทำงานแบบโมบายล์ได้เป็นอย่างดี และยังตอบสนองความต้องการใช้งานของกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นนักธุรกิจและคนทั่วไปได้อย่างตรงใจอีกด้วย ผู้ใช้จะรับรู้ถึงประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเมื่อเปิดใช้แอพพลิเคชั่นหลายตัวให้ทำงานพร้อมกัน เช่น การดาวน์โหลดคลิปวิดีโอไปพร้อมๆ กับการสแกนไวรัส นอกจากนี้ คุณสมบัติด้านการจัดการพลังงานยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วย
ชิปเซ็ตในตระกูลโมบายล์ อินเทล 965 เอ็กซ์เพรส (Mobile Intel® 965 Express chipset) ที่มาพร้อมกับ Intel® Clear Video Technology ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับวิดีโอที่มีความละเอียดสูงอีกด้วย โดยผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลที่มีกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ผ่านทางทีวีได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน ด้วย Intel® TV Wizard ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้การเชื่อมต่อเข้ากับทีวีแบบไฮเดฟฟินิชั่นทำได้อย่างง่ายดาย สำหรับไดรฟ์เวอร์ชุดใหม่ล่าสุดนั้น ช่วยให้การทำงานมีเสถียรภาพสูงสุด และสามารถดึงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาได้เมื่อใช้งานร่วมกับ Windows Vista Premium ที่มีคุณสมบัติของ Windows Aero*
ในส่วนของการดาวน์โหลดหรืออัพโหลดข้อมูลดิจิตอลจากอินเทอร์เน็ตให้เร็วขึ้นนั้น Intel® Next-Gen Wireless-N ที่ติดตั้งมากับเครื่องยังสามารถรองรับเครือข่ายไร้สาย 802.11AGN และให้อิสระในการทำงานกับผู้ใช้ได้มากขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเดิมถึงห้าเท่าสำหรับงานอย่างเช่นการดาวน์โหลดข้อมูล และยังสามารถครอบคลุมพื้นที่การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายได้มากกว่าเดิมถึงสองเท่าด้วย
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี Intel® Turbo Memory เป็นคุณสมบัติที่ลูกค้าสามารถเลือกเพิ่มเติมได้ โดยเทคโนโลยีนี้เป็นคุณสมบัติที่มีความพิเศษ โดยสามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำได้เร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณสองเท่า และยังช่วยลดเวลาในการเปิดเครื่อง หรือบู้ตเข้าสู่ระบบของโน้ตบ๊กได้มากขึ้นถึงร้อยละ 20 อีกด้วย ความเร็วในการทำงานที่สูงขึ้นนี้จะช่วยลดพลังงานที่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ให้ลดลง และยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ด้วยเช่นกัน
โน้ตบุ๊ก - หัวใจสำคัญของธุรกิจ
อินเทล เซนทริโน โปร โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่เฉพาะสำหรับผู้ใช้ในกลุ่ม
ธุรกิจ จะประกอบคุณสมบัติต่างๆ ที่ได้รับความนิยมและเคยมีใช้อยู่เฉพาะในคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปสำหรับองค์กรธุรกิจเท่านั้น โดยใช้อินเทล™ วีโปร™ โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี (Intel® vPro™ processor technology) ซึ่งจะช่วยให้แผนกไอทีสามารถบริหารจัดการระบบคอมพิวเตอร์ทั้งแบบเดสก์ท้อปและโน้ตบุ๊กได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรับมือกับปัญหากวนใจได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบการรักษาความปลอดภัย ค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ และการบริหารจัดการทรัพย์สิน โดยทั้งหมดนี้สามารถทำผ่านทางเครือข่ายไร้สายได้อีกด้วย
หนึ่งในนวัตกรรมที่อินเทลนำมาใส่ไว้ใน อินเทล เซนทริโน โปร ได้แก่ Intel® Active Management Technology ซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสำหรับองค์กรธุรกิจมีความสามารถในการบริหารจัดการระบบคอมพิวเตอร์ มีระบบการป้องกัน และสามารถแก้ไขระบบได้อย่างสะดวกด้วยการทำงานแบบรีโมตผ่านเครือข่ายไร้สาย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิผลให้กับการทำงานลดค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบไอที และเพิ่มช่วงเวลาอัพไทม์ให้สูงขึ้น
ทางด้าน นายรูเบน ตัน ผู้จัดการฝ่ายวิจัย แผนกระบบส่วนบุคคล ของไอดีซี เอเชีย/แปซิฟิก กล่าวว่า “ปัจจุบัน อินเทล เซนทริโน โปร โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี ทำให้เราสามารถนำคุณสมบัติของ อินเทล วีโปร โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี มาเสริมไว้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ซึ่งคุณสมบัติที่ประกอบไว้ในเครื่องอย่างเช่น ระบบการบริหารจัดการแบบรีโมต จะช่วยลดช่วงเวลาดาวน์ไทม์และค่าใช้จ่ายของฟอร์มแฟกเตอร์ เนื่องจากธรรมชาติของโน้ตบุ้กที่เป็นอุปกรณ์พกพาและยากต่อการบริหารจัดการนั่นเอง”

 

รากฟันเทียม ฝีมือไทย งานวิจัยจากหิ้ง.. สู่การผลิตจริง “รากฟันเทียม” เทคโนโลยีทางเลือกที่ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น...
เดิมทีปัจจัยด้านราคาคืออุปสรรค.. เพราะต้องซื้อเทคโนโลยีทั้งหมดจากต่างประเทศ แต่วันนี้…คนไทยจะมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีนี้มากขึ้น เมื่องานวิจัยไทยประสบผลสำเร็จและกำลังจะลงจากหิ้ง...ไปสู่ภาคการผลิตอย่างแท้จริง
โดยสำนักงานจัดการสิทธิเทคโนโลยี ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี หรือ TMC ได้รับมอบหมายการขยายผลเชิงพาณิชย์ในเทคโนโลยี “รากฟันเทียมแบบตัวยึดในกระดูกแบบเกลียวใน” ผลงานการวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีทางทันตกรรมขั้นสูง (ADTEC) หน่วยงานภายใต้ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งจดสิทธิบัตรไปแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ปีที่ผ่านมาและ บริษัทพัฒนาวิทย์ จำกัด คือผู้ประกอบการรายแรกที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิเทคโนโลยีนี้ในการผลิตและจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
ผศ.ทพ.วิจิตร ธรานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ ADTECบอกว่าปัจจุบันประเทศไทยมีการทำทันตกรรมรากฟันเทียมประมาณ15,000ชิ้นงานต่อปี เป็นเทคโนโลยีที่นำเข้าทั้งหมดซึ่งมีราคาแพงต้นทุนส่วนใหญ่เป็นค่าลิขลิทธิ์ค่าวัสดุจริงไม่ ถึง10%
ทั้งนี้มองว่าแนวโน้มการใช้งานในประเทศไทยจะมีมากขึ้น ตลาดโตเร็วมาก ซึ่งหากมีราคาที่ต่ำลง โอกาสที่จะแพร่หลายให้ประชาชนเข้าถึงก็จะมีมากขึ้นด้วย
สำหรับงานวิจัยรากฟันเทียมแบบตัวยึดในกระดูกแบบเกลียวใน ซึ่งแรกเริ่มเป็นผลงานของเอ็มเทคนั้น ถือเป็นเทคโนโลยีทันตกรรมขั้นสูง ที่สามารถทดแทนการนำเข้าเทคโนโลยีการรักษาและเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศที่มีราคาแพง จากราคาปัจจุบันที่สูงกว่า 15,000 บาทต่อซี่ เมื่อนำให้พัฒนาวิทย์ บริษัทคนไทยเป็นผู้ผลิต กำหนดราคาจำหน่ายในประเทศเบื้องต้นไว้แล้วว่าไม่เกิน 5,000 บาทแน่นอน
จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้นอกจากจะเป็นฝีมือนักวิจัยไทย ทำในประเทศไทยและขายโดยบริษัทคนไทยแล้วรากฟันเทียมที่ผลิตขึ้นยังเป็นวัสดุที่ได้รับการออกแบบให้มีความเหมาะสมกับขนาดและรูปร่างทางกายวิภาคของคนไทยอีกด้วย
พลเรือเอกเกาะหลัก เจริญรุกข์ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัทพัฒนาวิทย์ จำกัด กล่าวว่า ใช้งบประมาณในการผลิตเริ่มต้น 30 ล้านบาท ใช้เวลาในการเตรียมการสายการผลิตประมาณ 3-4 เดือน คาดว่าเริ่มผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ได้ประมาณเดือนสิงหาคม-ตุลาคมนี้หลังจากนั้นจะต้องผ่านการทดสอบคาดว่าผลิตเชิงพาณิชย์สำหรับจำหน่ายจริงได้ภายในเดือนตุลาคม 2550
สำหรับรากฟันเทียมเวอร์ชั่นต่อไป ผู้อำนวยการศูนย์ ADTEC บอกว่าอยู่ระหว่างการของบประมาณการวิจัย โดยจะพัฒนาให้ดีขึ้น ซึ่งงานวิจัยนี้อยู่ในโครงการงานวิจัยรากฟันเทียม ซึ่ง ADTEC เอ็มเทค เนคเทคและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันจัดตั้งขึ้น ผลงานการวิจัยนอกจากการวิจัยรากฟันเทียมแบบตัวยึดในกระดูกแบบเกลียวในแล้วยังมีอีกหลายผลงานที่เกี่ยวข้องกับทันตกรรมชั้นสูง อาทิ สว่านแบบฉลาดที่สามารถควบคุมอุณหภูมิ หรือการใช้ซอฟต์แวร์สามมิติบอกตำแหน่งหรือวางแผนการฝังรากฟันเทียม
ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ แม้จะมีการคิดค้นกันมานานแล้วที่ต่างประเทศ แต่ก็น่าภูมิใจ ที่วันนี้นักวิจัยไทยสามารถคิดค้นและทำได้เอง.

 

เอเซอร์ (Acer) ผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไต้หวันประกาศพร้อมซื้อกิจการบริษัทเกตเวย์ (Gateway) บริษัทคู่แข่งสัญชาติสหรัฐแบบเต็มตัว เบ็ดเสร็จ 710 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ผลจากการซื้อบริษัทระดับโลกอย่างเกตเวย์ช่วยให้เอเซอร์เพิ่มส่วนแบ่งตลาดและผงาดขึ้นเป็นผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีอันดับสามของตลาดโลกได้สำเร็จ เขี่ยลีโนโวตกไปอยู่อันดับสี่อย่างคาดไม่ถึง
เม็ดเงิน 710 ล้านเหรียญนั้นคำนวณโดยตีราคาหุ้นเกตเวย์ที่ 1.9 เหรียญต่อหุ้น เหนือกว่าราคาปิดตลาดหุ้นที่ระดับ 1.21 เหรียญเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมถึง 57 เปอร์เซ็นต์
เจ.ที. หวัง (J.T. Wang) ประธานเอเซอร์ให้สัมภาษณ์ว่าการซื้อกิจการเกตเวย์ถือเป็นดีลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเอเซอร์ โดยการซื้อเกตเวย์ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของเอเซอร์ก้าวกระโดดไปอยู่ที่อันดับสามทันที
ลีโนโวกระเด็น
เอชพีหรือ Hewlett-Packard ยังคงเป็นที่หนึ่งของตลาดคอมพิวเตอร์พีซีโลก ขณะที่อันดับสองคือเดลล์ (Dell) ไม่เปลี่ยนแปลง การประกาศซื้อกิจการเกตเวย์ทำให้อันดับสามเปลี่ยนมือจากลีโนโว (Lenovo) ไปเป็นเอเซอร์โดยปริยาย แม้ว่าที่ผ่านมาลีโนโวจะสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างน่าทึ่
จุดนี้นักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ (Gartner) เชื่อว่าศักยภาพของลีโนโวจะไม่ได้รับผลกระทบ แม้ลีโนโวจะถูกลดฐานะไปอยู่ที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พีซีอันดับ 4 ของโลก คาดว่าจะสามารถผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตต่อปีในสถิติที่เหนือกว่าต่อไปเรื่อยๆ
ลีโนโวนั้นเคยทุ่มเงินถึง 1.25 พันล้านเหรียญสหรัฐในการซื้อกิจการคอมพิวเตอร์พีซีจากยักษ์ใหญ่สีฟ้าไอบีเอ็ม (IBM) ในปี 2004 ผลจากการซื้อครั้งนั้นส่งให้ลีโนโวทะยานจากแบรนด์โนเนมมาอยู่ที่อันดับสามของโลกได้ในพริบตาเดียว
สำหรับศักยภาพของเกตเวย์ รายได้ประจำปีการเงินล่าสุดคือ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ ยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซี 20 ล้านเครื่องต่อปี เพิ่มขึ้นจาก 16 ล้านเครื่องในปีก่อนหน้า ถูกจัดเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายพีซีรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐฯ
แบรนด์ใหม่เกิด
จุดแข็งของเกตเวย์ในพื้นที่ตลาดสหรัฐฯทำให้เอเซอร์วางแผนเปิดตัวพีซีแบรนด์ใหม่สำหรับทำตลาดทั่วโลก ด้านตัวแทนของเกตเวย์มองว่าความได้เปรียบเรื่องส่วนผสมทางการตลาดและภูมิศาสตร์ของเกตเวย์ จะส่งให้เอเซอร์แข็งแกร่งทั้งในตลาดยุโรปและเอเชีย เนื่องจากที่ผ่านมา ชื่อเอเซอร์ยังคงเป็นจุดอ่อนที่ทำให้การบุกตลาดยุโรปไม่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่อย่างเอชพีหรือเดลล์ได้เต็มที่
ก่อนหน้านี้ เอเซอร์ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งกับลีโนโวในการเข้าซื้อกิจการของแพคการ์ดเบลล์ (Packard Bell) หนึ่งในผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พีซีชั้นนำของตลาดยุโรป โดยดีลนี้ถูกประกาศในช่วงหลังปิดตลาดหุ้นแล้ว มูลค่าหุ้นของเอเซอร์จึงยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยลดลงราว 1.20 เหรียญไต้หวันไปปิดที่ 63.60 เหรียญไต้หวัน (ราว 64 บาท)

 

กล่องอาหารชีวภาพ
กระแสการรณรงค์เพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกลับมาอีกครั้ง...โดยเฉพาะเมื่อต้องประสบกับปัญหามลพิษ ขยะและสภาวะโลกร้อน
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ได้นำร่องโครงการกล่องอาหารจากชานอ้อยสะอาด...ปลอดภัย...ไร้สารก่อมะเร็ง โดยล่าสุดเปิดตัวโครงการนำร่องใช้กล่อง อาหารชีวภาพ ภายในโรงอาหารสวัสดิการของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณการใช้พลาสติกและโฟมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ.2546 ที่ผ่านมา พบว่ามีปริมาณขยะประเภทพลาสติก และโฟมสูงถึง 2.3 ล้านตัน ซึ่งก่อให้เกิดเป็นปัญหาต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ให้พลาสติกเหล่านี้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติ ก็ต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 400 ปี
ดังนั้น ภาวะขยะพลาสติกและโฟมจึงถือได้ว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ประเทศต่าง ๆ ต้องพึงตระหนัก
แต่ก็ต้องยอมรับว่าโฟมกับการบริโภคของคนไทยเป็นของคู่กันมาช้านาน ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้วัสดุดังกล่าว ฉะนั้นทางเลือกก็คือการเร่งบรรจุภัณฑ์ทดแทนต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอัน ตรายต่อผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นพลาสติกชีวภาพหรือบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ
ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สนช. ได้มีการสนับสนุน “โครงการบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากชานอ้อย” หนึ่งในผลงานนวัตกรรมของคนไทย ที่มีความปลอดภัยทั้งด้านสุขภาพและยังสามารถช่วยรักษาสภาพแวดล้อมได้อีกด้วย ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านการวิเคราะห์ทดสอบจากหน่วยงานทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ
ด้านนายแพทย์วีระฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายทางชีวภาพเพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (BPE) บอกว่า บรรจุภัณฑ์อาหารที่ทำจาก โฟมและพลาสติกจะมีสารก่อมะเร็งเป็นส่วนประกอบอยู่ ซึ่งสารเหล่านี้อาจปนเปื้อนออกมากับอาหารเมื่อนำไปบรรจุอาหารที่มีความร้อนสูง โดยสารดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาท การทำงานของตับ
ดังนั้นบริษัทจึงริเริ่มโครงการผลิตบรรจุภัณฑ์บรรจุอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยบรรจุภัณฑ์ที่บริษัทผลิตขึ้น เป็นผลพวงจากการค้นคว้าวิจัย นำเยื่อชานอ้อยมาขึ้นรูปบนแม่พิมพ์ และอบแห้งด้วยไอน้ำ เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ ตามความต้องการ และผู้บริโภคก็สามารถมั่นใจได้ในความสะอาดปราศจากสารปนเปื้อนใด ๆ โดยคุณ สมบัติของบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายทางชีวภาพเพื่อสิ่งแวดล้อมนั้นมีความสะอาด ปราศจากสารพิษปนเปื้อน ใช้ได้ทั้งการอุ่นในตู้อบ และตู้ไมโครเวฟ ใช้ได้กับอาหารทั้งร้อนและเย็น ทนอุณหภูมิตั้งแต่-40ํC ถึง 250ํC สามารถทิ้งพร้อมอาหารได้ทันที ไม่ต้องแยกขยะ สามารถย่อยสลายได้ทั้งหมดโดยใช้เวลาเพียง 45 วัน เมื่อฝังกลบใต้ดิน
และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้นวัตกรรมที่มีประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของคน สนช. ร่วมกับกรม วิทยาศาสตร์บริการ และบริษัท บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ทางชีวภาพเพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด เปิดตัว “โครงการนำร่องการใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร...ปลอดมะเร็ง” ขึ้น ณ บริเวณร้านค้าในโรงอาหารสวัสดิการของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้จำหน่ายอาหารและผู้บริโภคได้ทราบถึงข้อมูลด้านสุขภาพจากการใช้บรรจุภัณฑ์โฟมในการบรรจุอาหาร รวมถึงทดสอบการใช้งานและเก็บข้อมูลด้านการใช้งานเพื่อนำมาประเมินผลตอบรับจากผู้บริโภค อันจะนำมาซึ่งการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการได้ใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ
ช่วงนำร่องนี้บริษัทจะจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวในราคาเทียบเท่ากล่องโฟมคือกล่องละ 1 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน คาดว่าจะสามารถลดปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์ชนิดโฟมได้มากกว่า 20,000 ชิ้น
สนใจทดลองใช้ได้ที่โรงอาหารกระทรวงฯ หากติดใจมีจำหน่ายแล้วตามซูเปอร์มาร์เกต ราคาประมาณ 3.50 บาทต่อชิ้น แม้ราคาจะแพงกว่าโฟมทั่วไป แต่ผู้ที่ตระหนักถึงสุขภาพและสิ่งแวดล้อมบอกไม่ใช่ประเด็นสำคัญเพราะว่าพิษภัยและปัญหาสิ่งแวดล้อมสำคัญกว่า.

 

ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
การศึกษา หรือ education หมายถึง กิจกรรมหรือแหล่งทรัพยากรทั่วๆไปที่สนับสนุนการเรียนรู้
การเรียนการสอน หรือ instruction หมายถึง การจัดรูปแบบของกิจกรรมที่มุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งไว้โดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เรียน
คำว่า การศึกษา ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะในสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่จะรวมถึงข้อเสนอแนะของพ่อแม่ต่อลูก
กิจกรรมการสอน หมายถึง กิจกรรมที่จัดโดยบุคคลหรือสิ่งอื่นใดนอกจากผู้เรียนเพื่อนำพาผู้เรียนไปสู่จุดหมาย เช่น การอ่านหนังสือในบทเรียนที่ครูกำหนดให้
จุดมุ่งหมายการเรียนรู้ในสถาบันการศึกษา อาจเกิดจากสถาบันและผู้เรียนร่วมกัน มักมีลักษณะยุ่งยากซับซ้อน ครูผู้สอนจึงคิดวิธีการใหม่ๆเพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ง่ายกว่า วิธีการบางอย่างอาจจัดเป็น เทคโนโลยี ซึ่งหมายถึง การประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์หรือองค์ความรู้ เพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทางได้ วิธีการดังกล่าวอาจรวมถึงอุปกรณ์(hard technology) หรือวัสดุ หรือซอฟท์แวร์
นิยามของเทคโนโลยีการศึกษา ก. นิยามในลักษณะมโนทัศน์เชิงนามธรรม
เทคโนโลยีการศึกษาเป็นการศึกษาและการปฏิบัติอันดีเพื่อการเรียนรู้และช่วยให้การปฏิบัติดีขึ้นโดยการสร้างสรรค์การใช้ประโยชน์และการจัดแหล่งทรัพยากร และกระบวนการทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม
ข. การปฏิบติอันดีงาม (ethical practice)
ค. ความเกื้อกุล (facilitating)
ง. การเรียนรู้ (learning)
จ. ช่วยทำให้ดีขึ้น(improving)
ฉ. การปฏิบัติ (performance)
ช. การสร้างสรรค์ (creating)
ซ. การใช้ประโยชน์ (using)
ฌ. ความเหมาะสม (appropriate)
ญ. เชิงเทคโนโลยี (technological)
ฎ. กรรมวิธี (process)
ฏ. แหล่งทรัพยากร (resources)
ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขและปรับปรุงได้ไปตามกาลเวลา มีโครงสร้างและขอบเขตที่กว้าง ซึ่งเป็นการควบคุมให้เกิดการเรียนรู้ สามารถนำไปใช้และปฏิบัติได้จริง อาจมีเครื่องมือต่างๆเข้ามาเป็นส่วนประกอบทำให้มีความชัดเจนในการนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นพวรรณ เฉลิมพันธ์
รหัส 50063706